(มีคลิป) ชาวเชียงใหม่ กว่า 500 คน พร้อมใจร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” แสดงพลังและความสามัคคี

เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 12 ม.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ ประชาชนและกลุ่มผู้รักสุขภาพ จำนวนกว่า 500 คน ต่างพากันเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการนัดหมายให้ชาว จ.เชียงใหม่ ได้ออกมาร่วมกันแสดงพลังและความสามัคคี รวมไปถึงการชุมนุมอย่างสร้างสรรค์ โดยภายในกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดเส้นทางวิ่งไปตามคูเมืองเชียงใหม่ เป็นระยะทางรวมประมาณ 7.5 กิโลเมตร ซึ่งได้มีการชุมนุมและเริ่มปล่อยตัวที่บริเวณข่างประตูท่าแพ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ร่วมกิจกรรม ก็ได้วิ่งไปตามเส้นทางคูเมืองด้านใน แล้วมาบรรจบเส้นชัยที่จุดปล่อยตัวในครั้งแรก

โดย ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำเชียงใหม่ และผู้ประสานงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นไปตามการนัดหมายที่ทุก ๆ จังหวัด ประมาณ 20 กว่าจังหวัด ได้มีการร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยจุดประสงค์นั้น เพื่อต้องการสื่อถึงผู้นำ ว่าในขณะนี้ประชาชนนั้นลำบากยากแค้นกันมาก อยากให้มาดูแล ใส่ใจเรื่องของบ้านเมืองและประชาชน รวมไปถึงความเป็นอยู่ด้วย ซึ่งหากถามว่าสิ่งที่เราสื่อถึงสาธารณะทุกวันนี้เพื่ออะไร ก็คือ ต้องการให้รับทราบร่วมกันว่าความไม่พึงพอใจในกลุ่มของประชาชนนั้นมีไม่น้อย และอยากให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ส่วนกรณีเรื่องของมวลชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ที่บริเวณจุดลานประตูท่าแพ จำนวน 400-500 คน ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จที่ได้ตั้งใจไว้ เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรมาก และไม่อยากให้เกิดความเดือดร้อน เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว รวมไปถึงความเดือดร้อนต่อผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย

ขณะที่ทางด้าน อ.ชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า การมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ก็เพื่อมาติดตามดูความเคลื่อนไหวของประชาชน และความตื่นตัวของสิทธิพลเมือง โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ก็เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศก็ทำกันในลักษณะนี้ โดยการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั้น ในประเทศประชาธิปไตยก็จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงรัฐบาลด้วยว่า หลังจากการที่งบประมาณเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ ก็ขอให้รับข้อสังเกตที่สภาได้ตั้งข้อสังเกตไว้ เนื่องจากว่าการตั้งงบประมาณนั้นจริง ๆ แล้วมีความต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล คสช.แล้ว แต่ว่ามาผ่านเมื่อสมัยรัฐบาลเลือกตั้ง ส่วนในเรื่องของการมาวิ่งในวันนี้ ตนไม่ได้มีการนัดหมายแต่อย่างใด เพียงแต่เห็นจากการประชาสัมพันธ์ จึงมาเข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น ซึ่งหากเมื่อคืนสภายังประชุมไม่เสร็จ ตนก็ยังอยู่ที่ กทม. และตั้งใจมาร่วมกิจกรรมเนื่องจากชอบเห็นความตื่นตัวของประชาชน มีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งประเทศที่เจริญแล้วก็ทำกันทั้งนั้น และตั้งใจเพื่อมาออกกำลังกายเพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นไปอย่างเรียบร้อยและไม่เกิดความวุ่นวายแต่อย่างใด โดยในช่วงของการจัดกิจกรรมนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จนกระทั่งการจัดกิจกรรมเสร็จสิ้นในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น