ตะลึงต้นโพธิ์ มช.ล้มใส่รถเก๋งพบใต้ต้นไม้มีอิฐโบราณอายุกว่า 500 ปี คาดว่าเป็นกู่หรือเจดีย์เก่ามีฐานเป็นเหลี่ยม ขอให้นักวิชาการตรวจสอบเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาทางประวัติศาสตร์ 720 ปีเมืองเชียงใหม่พอดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ที่บริเวณเนินดินใต้ต้นโพธิ์ที่เกิดเหตุวาตภัยต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุประมาณ 100 ปีที่หักโค่นล้มทับรถเก๋งจำนวนหลายคัน เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา
และรถเก๋ง 1 ในจำนวนหลายคันนั้นมีรถเบอร์เซเดสเบนซ์ สีทอง ทะเบียน ฏน 1137 กทม.ของนายทีปอุทัย แสนปันนากาศ นักโบราณคดีอิสระ และ ผอ.ศิลปพระพิมพ์โบราณ หริภุณชัย จังหวัดลำพูน หรือวงการพระยกย่องว่า “เซียนหนึ่งพระรอด” ที่มีความรู้เรื่องพระรอดและศิลปหริภุณชัยอย่างลึกซึง จนสถาบันวิจัยสังคมให้ใบประกาศนีบัตร เป็นผู้มีคววามรู้ความเชี่ยวชาญในศิลปหริภุญชัย เป็นเข้าของรถเบนซ์ได้รับความเสียหายมากที่สุด มูลค่าซ่อมรถกว่า 500,000 บาท ที่ได้นำรถมาจอดใต้ต้นโพธิ์ใกล้ห้องสมุด มช.เพื่อไปศึกษาค้นคว้าเรื่องวัตถุโบราณในห้องสมุด มช. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวคืบหน้าล่าสุดในเช้าวันนี้ นายทีปอุทัย หรือเซียนหนึ่งพระรอด ได้นำดอกไม้ธูปเทียนและน้ำอบน้ำหอมเข้ามากราบไหว้สถานที่ที่เกิดต้นโพธิ์ล้มทับรถ เซียนหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีความเชื่อว่า การที่ต้นโพธิ์มีอยู่มักจะเป็นสถานที่สำคัญ และหลังจากเกิดวาตภัยทำให้ต้นโพธิ์ล้มทับรถตนเสียหายทั้งคันนั้น ตนก็มาดูพื้นที่หลายครั้งก็พบว่าใต้ฐานต้นโพธิ์มีกอนอิฐเก่าแก่อยู่จำนวนมาก ได้วางเรียงรายเป็นแถวก็มี และส่วนหนึ่งอยู่ใต้รากต้นไม้สักและต้นไม้ฮัก เป็นอิฐที่เก่าแก่มีขนาดใหญ่กว่าอิฐปัจจุบัน อิฐที่ตนค้นพบคาดว่าอิฐดังกล่าวอายุประมาณ 500-700 ปี ซึ่งหากเทียบกับการสร้างเมืองเชียงใหม่ในปีนี้ก็อายุ 720 ปีพอดี แต่อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบถึงอิฐที่อยู่เนินดินนี้ว่าจะเป็นสถานที่สร้างกู่ หรือเป็นเจดีย์ เพราะพบฐานลักษณะบางจุดทางทิศจะวันตกจะเห็นอิฐวางเรียงกันเป็นเหลี่ยมก็ยังไม่ทราบว่าเป็นสี่เหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยมหากขุดแล้วถึงจะทราบ แต่การดำเนินการขุดค้นเพื่อศึกษาทางประวัติศาสตร์ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร หรือนักวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)ที่เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและโบราณวัตุถุเข้ามาตรวจสอบขุดค้นหรือดำเนินการที่ถูกต้องต่อไป
“ตนเป็นผู้ประสบภัย และพบเนินดินและอิฐเก่าแก่นี้ก็ตั้งใจมาขอขมาสถานที่และต้นโพธิ์ แล้วให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แต่อิฐทุกก้อนก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้ขุดออกมาแต่อย่งใด แต่ตนมีความหวังคือต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือนักวิชการด้านโบราณคดีของ มช.ให้อนุรักษ์รักษาไว้เท่านั้น เพราะหากเป็นโบราณสถานที่สำคัญที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์โบราณของการสร้างเมืองเชียงใหม่ก็จะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษาและนักโบราณคดีท่านอื่นๆต่อไป.
ร่วมแสดงความคิดเห็น