เครือข่ายแรงงานภาคเหนือรวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล

image

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 พ.ค.59 ที่อาคารศาลากลาง ถ.โชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ได้มีเครือข่ายแรงงานภาคเหนือกว่า 120 คน ประกอบไปด้วยเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ , มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ , มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา,มูลนิธิส่งเสริมโอกาสผู้หญิง (EMPOWER),มูลนิธิ MPLUS , เครือข่ายปฏิบัติการผู้หญิงไทยใหญ่ (SWAN) , กลุ่มพลังเยาวชนไทใหญ่ (SYP) , สหพันธ์คนงานข้ามชาติ,กลุ่มแรงงานสามัคคี , สมาคมส่งเสริมสิทธิแรงงาน , สหภาพแรงงานอุตสากรรมสิ่งทอและตัดเย็บเสื้อผ้าสัมพันธ์ , สหภาพแรงงานอัญมณีและเครื่องประดับสัมพันธ์ , เครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ , กลุ่มคนรับงานมาทำที่บ้า , ละครชุมชน “กั๊บไฟ” , เครือข่ายการย้ายถิ่นในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง , เครือข่ายแรงงานนอกระบบภาคเหนือ รวมตัวกัน เพื่อเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องในโอกาสวันกรรมกรสากล โดยมีข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล 1 พ.ค. 2559 ตามรายละเอียดดังนี้ ข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล 1 พฤษภาคม 2016 ด้วยวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “ วันกรรมกรสากล ” ซึ่งเป็นวันที่คนทำงานทั่วโลกได้รำลึกถึงการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมของคนทำงาน เป็นการยกย่องและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของคนทำงานในทุกสาขาอาชีพ สิทธิอันชอบธรรมที่คนทำงานสมควรได้รับในฐานะมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับประชาชนคนกลุ่มอื่น ๆในฐานะที่คนทำงานเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวไปข้างหน้าและทัดเทียมกับนานาประเทศ

image

ในโอกาสนี้ ทางเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วย องค์กรที่ทำงานด้านส่งเสริมสิทธิด้านแรงงาน กว่า 15 องค์กร นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่และตัวแทนคนงานในพื้นที่ ได้ประเมินและพิจารณาถึงสถานการณ์ด้านแรงงานภายในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่ายังมีปัญหา การละเมิดสิทธิแรงงาน ได้แก่ การจัดตั้งสหภาพแรงงานของคนงานในพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงมีปัญหาและอุปสรรคในการจัดตั้ง ไม่สามารถขยายสหภาพแรงงานให้เพิ่มขึ้นและขาดความเข้มแข็ง รวมถึงไม่ได้มีส่วนร่วมในคณะกรรมการไตรภาคีชุดต่างๆ แรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด แรงงานข้ามชาติยังไม่ได้รับสิทธิตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด เช่น เวลาทำงาน วันทำงาน วันหยุด วันลา ต่าง ๆ การทำงานล่วงเวลา การทำงานในวันหยุด ปัญหาด้านสุขภาพความปลอดภัยในการทำงาน ยังพบว่าเอกสารข้อแนะนำ วิธีการใช้และเก็บรักษาอุปกรณ์การทำงานและสารเคมีอันตราย การป้องกันและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาของคนงาน ไม่มีการอบรมชี้แจงถึงข้อควรระวังของการใช้สารเคมีต่างๆ ให้กับคนงานได้มีความรู้และเข้าใจก่อนนำไปใช้ การเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม เนื่องจากนายจ้างไม่ได้นำลูกจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคม และบางส่วนมีปัญหาการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ เช่น การใช้สิทธิเบิกเงินสงเคราะห์บุตร ที่มีเงื่อนไขต้องให้ข้าราชการ ซี 3 รับรองทุกปี และกรณีรับเงินชราภาพ ที่ยังไม่มีมาตรการชัดเจนในการรับสิทธิ นอกจากนี้ ยังพบว่าแรงงานข้ามชาติถูกจำกัดสิทธิ เสรีภาพในการเดินทาง และถูกเรียกรับผลประโยชน์

image

โดย จากการประชุม เพื่อระดมปัญหาและข้อเสนอของกลุ่มคนทำงานและเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ กว่า 200 คน จึงมีข้อเรียกร้องมายังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแรงงานประจำจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายแรงงานภาคเหนือ นักวิชาการ นักกฎหมายที่สนใจด้านแรงงาน และสหภาพแรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพความปลอดภัยในการทำงานของคนงาน และการเข้าถึงสิทธิด้านแรงงานของคนงาน และข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล

1. ขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทจัดหางาน เพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานผิดประเภทของแรงงาน โดยบริษัทจัดหางานนำคนงานไปทำงานไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในสัญญาการจ้างงาน เป็นเหตุให้คนงานข้ามชาติกลายเป็นผู้ทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551

2. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนแรงงานและออกใบอนุญาตทำงาน ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมาการจดทะเบียนต้องใช้เอกสารจำนวนมากและมีหลายขั้นตอน เสียค่าใช้จ่ายสูง

3. ขอให้รัฐบาลไทยรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ 98 สิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง และอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน

4. ขอให้รัฐบาลปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 421 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ

5. ขอให้รัฐบาลกำหนดให้พนักงานบริการเป็นอาชีพที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานทุกฉบับ

6. ขอให้แก้ไขพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ให้คนงานข้ามชาติทำงานได้ทุกอาชีพตามความสามารถของตน และขยายอายุคนทำงานจนถึง 60 ปี

7. ขอให้มีการแก้กฎกระทรวงที่ยกเว้นกลุ่มอาชีพบางกลุ่มที่ไม่ให้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ให้แรงงานทุกคนทุกอาชีพเข้าสู่ระบบประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และแก้ไขกฎหมายประกันสังคม ในกองทุนชราภาพ ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิเลือกที่จะรับเป็น บำเหน็จชราภาพ หรือ บำนาญชราภาพได้ โดยไม่กำหนดอายุของผู้ประกันตน

นอกจากนี้ได้เสนอต่อกระทรวงมหาดไทย โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎระเบียบในการเดินทางของแรงงานข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง ให้มีเสรีภาพในการเดินทาง

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงยังบริเวณด้านหน้าอาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ในเวลาต่อมาทาง นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจากทางแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมทั้งได้รับฟังข้อเรียกร้องต่างๆ โดยรับปากว่าจะนำหนังสือที่ได้รับมอบเรียนให้ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ทราบต่อไป ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการยื่นหนังสือแล้วทางกลุ่มผู้ชุมนุมต่าวก็พากันแยกย้ายเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น