หนุ่มใหญ่นำป้ายติดประกาศห้ามบุกรุกหรือกระทำใดในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ ใกล้กับลานอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อมลงบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน นำป้ายไปปักแสดงอาณาเขต ห้ามคนบุกรุกครอบครอง นำขยะ หรือสิ่งปฏิกูลไปทิ้ง หากมีการบุกรุกทำลายก็จะแจ้งความดำเนินคดี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 พ.ค.59 ที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.สมชาย หมายมั่น พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้รับแจ้งจากนายเจริญ ชุมภูคำ อายุ 54 ปี ชาวบ้านสันทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของที่โฉนดเลขที่ 84154 ซึ่งเป็นที่ดินมีเนื้อที่ติดกับน้ำตกห้วยแก้ว และใกล้กับลานอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้เข้าแจ้งความเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานในการถือครอบครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินจำนวนกว่า 1 ไร่ ซึ่งได้ชื้อมาในปี พ.ศ.2550 ในราคา 14 ล้านบาท จากนายสันต์ ศิลปิกุล เจ้าของโฉนดที่ดินเดิม ทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าไปสร้างบ้านพัก หรือสร้างที่อยู่อาศัยตลอดจนการนำขยะ หรือสิ่งปฏิกูลไปทิ้งในที่ดินดังกล่าว โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ฯได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานตามความต้องการของผู้แจ้ง
โดยทาง นายเจริญ ชุมภูคำ กล่าวว่า ตนเองถือได้ว่าเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินผืนดังกล่าวตามกฎหมาย โดยได้ทำการชื้อที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 และได้ทำการรางวัลแบ่งเขตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาไม่สามารถเข้าไปดำเนินการในที่ดินดังกล่าวได้เนื่องจากมีผู้บุกรุกเข้าไปจับจองเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้เข้ามาทำการตรวจสอบและแบ่งเขตจนเป็นที่เรียบร้อย ในวันนี้ตนเองจึงได้นำป้ายประกาศมาติดตั้งเพื่อป้องกันผู้บุกรุก และแสดงความเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และต่อไปในอนาคตจะทำการพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ต่อคนเชียงใหม่ จะได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อให้เกิดความสวยงาม
นายนายสุเทพ คำซ้อน อายุ 64 ปี กล่าว่า พื้นที่ดังกล่าวติดอยู่กับถนนสาธารณะ และน้ำตกห้วยแก้ว ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาทำการตรวจสอบนานแล้ว ซึ่งตนเองได้อาศัยอยู่บนพื้นที่ดังกล่าวนานกว่า 30 ปี โดยในขณะนี้ทางเจ้าของตัวจริงได้มาทำการติดป้ายประกาศ ตนเองก็ยินดีให้ความร่วมมือ และไม่ได้ขัดขวาง พร้อมจะช่วยดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้เกิดความสวยงามตามมาด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น