ขึ้นทะเบียนหวังวางกรอบ สถานประกอบการสุขภาพ

b.2

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมพร้อมขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ในเขตภาคเหนือ วางระบบให้ประชาชนสามารถตรวจสอบให้อินเตอร์เน็ตว่ามีมาตรฐานหรือเถื่อนได้ทันที คุ้มครองความปลอดภัย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นจากผู้รับบริการ

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาโรงการพัฒนาการบริหารจัดการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพระดับภูมิภาคประจำปี 2559 ในเขตภาคเหนือ โดยจัดประชุมผู้ประกอบการและผู้อำนวยการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพในเขตภาคเหนือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพระดับเขต ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 200 คน เพื่อชี้แจงความเข้าใจในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 เตรียมความพร้อมการขออนุญาตให้ร่างกฎหมายมีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2559 และเปิดรับฟังความคิดเห็นกฎกระทรวง 6 ฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายลูกของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ สำหรับใช้เป็นกรอบมาตรฐานในการปฏิบัติประกอบด้วยร่างกฎหมายว่าด้วยผู้ให้บริการผู้ดำเนินการ อัตราค่าธรรมเนียม การกำหนดบริการอื่นในสปา และมาตรฐานสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการ และผู้ให้บริการทุกประเภทต้องมีความรู้ ผ่านการอบรมหลักสูตรที่กรม สบส.รับรอง โดยเฉพาะธุรกิจสปาซึ่งมีบริการบางอย่างที่อาจมีการใช้ความร้อน ความเย็นที่มีผลต่อการหดขยายของหลอดเลือด ได้กำหนดให้ทุกแห่งต้องมีระบบการตรวจคัดกรองสุขภาพ เพื่อป้องกันอันตรายก่อนรับบริการ ห้ามคนเมาสุราเข้าใช้บริการ และให้ทุกแห่งจัดชุดปฐมพยาบาลพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยจะจัดประชุมครบทั้ง 4 ภาคและนำเสนอร่างกฎกระทรวงเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ภายในเดือนนี้

อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า พ.ร.บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 นี้เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและควบคุมกำกับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพอย่างชัดเจน ซึ่งมี 3 ประเภทได้แก่ สปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อส่งความงาม ให้ได้มาตรฐานจากกฎหมายและคุ้มครองความปลอดภัยผู้มาใช้บริการ ที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นจากผู้รับบริการทั้งไทยและต่างชาติ เป็นธุรกิจสีขาวให้ผลดีต่อสุขภาพ ไม่มีบริการทางเพศแอบแฝง หากสถานประกอบการณ์ใดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแต่ติดป้ายว่าเป็นบริการสปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อส่งเสริมความงาม จะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยข้อมูลล่าสุดในปี 2559 ทั่วประเทศในสถานประกอบการทั้ง 3 ประเภท ได้รับการอนุญาตจากกรม สบส. รวม 1,605 แห่ง โดยอยู่ในภาคเหนือ 322 แห่งประกอบด้วยนวด 256 แห่ง สปา 61 แห่ง และนวดเพื่อเสริมความงาม 5 แห่ง มากที่สุดที่จังหวัดเชียงใหม่ 149 แผ่นรองลงมาคือเชียงราย 55 แห่ง ส่วนใหญ่บริการนวดเพื่อสุขภาพในปี 2558 มีรายได้จากธุรกิจสปา 30,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2557 ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดขึ้นทะเบียนในเขตภาคเหนือจะเป็นรายใหม่ยื่นขออนุญาตเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2000 ราย

การขึ้นทะเบียนสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมายใหม่ มีนโยบายคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคอย่างเต็มที่ โดยได้พัฒนาระบบสารสนเทศและอำนวยความสะดวกประชาชนทั้งไทยและเทศ สามารถตรวจสอบสถานประกอบการสุขภาพไม่ว่าจะเป็นสปา นวดเพื่อสุขภาพ หรือนวดเพื่อเสริมความงามว่ามีมาตรฐานต้องตามกฎหมายหรือไม่ และรู้ได้ทันทีเช่นเดียวกับการตรวจสอบมาตรฐานของสถานพยาบาล หากตรวจสอบแล้วไม่พบรายชื่อในสารบบ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นสถานประกอบการเถื่อน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย.

ร่วมแสดงความคิดเห็น