สนุกสุดมันส์ ตื่นเต้นท้าทายจิตใจ “ล่องแก่งลำน้ำเข็ก”

 

เมื่อสายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาได้นำความเขียวขจีมามอบความชุ่มชื้นมามอบให้ผืนแผ่นดินและสายน้ำ ตามลำน้ำต่างๆอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกสนานและการผจญภัยในกิจกรรมการ “ล่องแก่งลำน้ำเข็ก” จังหวัดพิษณุโลก

TIM_DSC_5905

การล่องแก่ง เป็น กิจกรรมการท่องเที่ยวแนวผจญภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งนิยมใช้เรือยาง หรือ แพไม้ไผ่ ล่องตามลำน้ำที่มีแก่ง ที่แบ่งระดับความยากง่ายที่ระดับสายน้ำ ระดับ 1 ง่ายมาก 2 ธรรมดา 3 ปานกลาง 4 ยาก 5 ยากมาก และ 6 อันตราย ไม่เหมาะการล่องแก่ง

ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้าน อ.เขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของ ลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของ จ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้

ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง ซึ่งแม้ว่านักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง กับ 8 แก่ง นักล่องแก่งผจญภัย จะพบกับความตื่นเต้นตลอดเส้นทาง นับตั้งแต่TIM_DSC_5941เริ่มต้น ที่ท่าปากยาง ล่องไปถึงท่าขึ้นส่วนตัว ภายใน วนธารา เฮลท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และต้อนรับด้วยเครื่องดื่ม และอาหารว่าง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร

เสน่ห์ของแก่งลำน้ำเข็ก คือ ธรรมชาติของแก่งต่าง ๆ ในลำน้ำเข็ก จะมีการไต่ระดับความยากง่ายจากระดับ 1-2 แล้วเพิ่มความรุนแรงเป็น 3-4 และ 4-5 ในช่วงท้ายของเส้นทาง ทำให้ผู้ล่องแก่งมีเวลาซักซ้อมฝีไม้ลายมือ ถือเป็นการอุ่นเครื่องไปในตัวTIM_DSC_5968

สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัย จะเริ่มตั้งแต่จุดลงเรือ ที่ท่าข้าม กม. 51 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยก่อนจะล่องแก่ง ทีมงานจะมีการอธิบาย การล่องแก่ง สภาพลำน้ำ และสาธิตการสวมเสื้อชูชีพ หมวกนิรภัย จากนั้นจะมีการสาธิตการนั่ง การพายเรืออย่างถูกวิธี และการควบคุมเรือยาง ให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ รวมทั้งจะมีการแนะนำ การปฏิบัติตัวระหว่างการล่องแก่ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยว จะต้องฟังคำสั่งนายท้ายเรือ อย่างเคร่งครัด

เส้นทางการล่องแก่ง มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ผ่านแก่งต่าง ๆ 8 แก่ง แก่งท่าข้าม มีความยากในระดับ 1-2 เพราะน้ำจะนิ่งแต่ ไม่นานนักจะได้พบกับ แก่งไทร ซึ่งจัดระดับความยากไว้ที่ 3-4 จากนั้นจะเป็น แก่งมรดกป่า แก่งนี้ฝีพายทางด้านขวาจะต้องทำงานหนัก เพราะเมื่อผ่านแก่งจะต้องหักเลี้ยวซ้ายทันที ตามกระแสน้ำที่คดเคี้ยว แก่งนี้ถือว่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ไม่เบา

แก่งปากยาง มีระดับความยาก 2-3 และก่อนจะหมดแก่งปากยาง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน้ำตกขนาดเล็ก ที่เกิดจากการลดระดับชั้นของหินขวางลำน้ำอยู่ มีความสูงประมาณ 1 เมตร และแก่งนี้ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องยึดตัวเรือให้แน่น ไม่เช่นนั้นอาจจะตกเรือได้ แก่งรัชมังคลา เป็นแก่งขนาดใหญ่ กระแสน้ำรุนแรงในระดับความยากที่ 3-4 มียอดคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

แก่งซาง และ แก่งนางคอย จะมีระดับความยากถึงระดับ 5 มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ถือว่าเป็นจุดอันตรายและจุดนี้จะมีTIM_DSC_6010เจ้าหน้าที่ ยืนรออยู่บนฝั่ง คอยให้การช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอันตราย ซึ่งหากตกเรือแล้วขึ้นไม่ได้ นายท้ายจะไม่ให้เกาะที่กาบเรือ เพราะจะเกิดอันตราย จากการที่ถูกเรือลากไปกระแทกหินในแก่ง และจะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย ควรจะรอให้เจ้าหน้าที่ริมฝั่งมาช่วยเหลือ แก่งยาวเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องลำน้ำเข็ก และถือว่ายากที่สุด เพราะแก่งนี้มีระยะทางถึง 100 เมตร ที่ระดับน้ำลดหลั่นกันหลายชั้น มีเกลียวคลื่นที่ดุดัน สร้างความตื่นเต้น หวาดเสียว ทั้งสนุกเร้าใจอย่างยิ่ง

การล่องแก่งลำน้ำเข็ก จะมาสิ้นสุดเหนือน้ำตกแก่งซอง บริเวณ ท่าขึ้น วนธารา เฮลท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ตลอดเส้นทาง สร้างความสนุกสนาน แบบประทับใจไม่รู้ลืม ให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้ช่วงที่เหมาะสม กับการล่องแก่งลำน้ำเข็กมากที่สุด คือ มิถุนายน – ตุลาคม

สอบถามข้อมูลเพิ่่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร.055 252 742-3

ร่วมแสดงความคิดเห็น