เกษตรอำเภอเมืองจี้ให้วิสาหกิจชุมชนออกจากพื้นที่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) หากออกไปแล้วจะต่ออายุจดทะเบียนวิสาหกิจให้ กำนันยืนยันอยู่ต่อ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 ก.ย.ที่สำนักงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมือง และ ต.หนองควาย และ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เลขที่ 118/3 หมู่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายประทีป เอี่ยนเล่ง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) พร้อมนางกอบกุล สุริยะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้าพบนายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล
นายประทีป เอี่ยนเล่ง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) กล่าวว่า สำนักงานวิสาหกิจชุมชนเป็นบ้านพักข้าราชการ ต้องการให้ย้ายที่ทำการวิสาหกิจชุมชนไปที่อื่น หากย้ายไปที่บ้านนายดี เป็นที่ทำงานก่อนแล้วทางอำเภอจะต่อใบขออนุญาตวิสาหกิจชุมชนให้ จากนั้นทางวิสาหกิจก็สามารถขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ถูกต้องกับทางศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง)ได้
นางกอบกุล สุริยะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ตั้งวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้อยู่ในที่บ้านพักข้าราชการ ทางนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัด กำชับให้นายดี ไปจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนได้แต่ต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่ในที่แห่งใหม่ หากย้ายแล้วให้เกษตรอำเภอดำเนินการจดทะเบียนต่ออายุให้วิสาหกิจชุมชนให้ได้ทันที ดังนั้นตนเลยลงพื้นที่มาเพื่อพบนายดี ดังกล่าว
นายดี กล่าวว่า ตนยืนยันจะอยู่ที่นี้ต่อไป การที่มีร่าง พรบ.วิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนเพื่อคุ้มครองชุมชน มาวันนี้ลูกสมาชิกวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ทั้ง 4 ตำบลทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมข้าราชการถึงมารังแกประชาชนได้ขนาดนี้ กลุ่มผู้ปลูกพื้ชและผักและผลไม้ที่เป็นอาหารของไนท์ซาฟารีได้ถามว่าเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านจังหวัดเชียงใหม่เท่ากับว่าให้ข้าราชการจังหวัดรวมตัวเพื่อรังแกชาวบ้านหรือเปล่า ชาวบ้านเขาก็ถามผมมา วันนี้วิสาหกิจชุมชนรวมตัวกันมานาน 10 ปีแล้ว หากผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำงานเพื่อตัวผมเอง ทำงานเพื่อปากท้องของชาวบ้านที่มีสมาชิกกว่า 300-400 รายหรือ 300-400 ครัวเรือนจาก 4 จังหวัดภาคเหนือ เพราะขณะนี้ชาวบ้านก็ยังเชื่อมั่นในการบริการของวิสาหกิจชุมชนและลงกล้าพืชผักและปลูกหญ้าไปแล้ว
“ผมฝากไว้ครับ วันนี้หากการจดทะเบียนต่ออายุวิสาหกิจชุมชน มีความเดือดร้อนของสมาชิกทั้งหมด สมาชิกเป็นชาวเขานำกล้วยลงดอยมา 2-3 เครือ เพราะขายได้เงินซื้อข้าวสารให้ครอบครัวเขาบนดอย เหล้านี้เป็นสิ่งผูกพันธุ์ ดังนั้นสิ่งไหนลดลาวาศอกได้ก็ช่วยๆกันครับ เพื่อชาวบ้านจะเดินหน้าไปได้ วันนั้นท่านรองผู้ว่าฯ บอกผมว่า ให้ผมเปลี่ยนบ้านเลขที่ใหม่เพื่อจะได้ต่ออายุวิสาหกิจชุมชนได้ และยังทำงานได้ตามปกติที่เดิมต่อไป พอมาวันนี้ให้ผมย้ายออกทั้งหมด มันทำไมเป็นไปแบบนี้ วันนี้ผมไม่ต้องการมีปัญหากับใคร เพียงแต่ให้โอกาสชาวบ้านมีทางเดินได้บ้าง เพราะไม่เคยเห็นส่วนราชการที่ไหนที่จะมีปัญหากับชุมชน ดังนั้นผมถือว่าผมไม่ผิด ผมดูแลเงินชาวบ้าน ทุกปีปันผลกำไรให้ชาวบ้านได้ทั่วถึง ไม่ต้องการค้าขายที่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะการทำงานวิสาหกิจชุมชนทำตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งไนท์ซาฟารีตั้งแต่ต้น หากจะไปประมูลตามที่ไนท์ตั้งใจเอานายทุนบางรายนั้นก็ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ที่ทำกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ 4 ตำบลติดกับไนท์ซาฟารี” นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีปัญหาดังกล่าวทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล ได้มีปัญหากรณีร้องเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ 1.ขอให้ตรวจสอบประเด็นกรมส่งเสริมการเกษตรไม่ต่ออายุให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล จากที่กรมส่งเสริมการเกษตรครอบครองที่ดินสาธารณประโยชน์โดยผิดกฏหมายมานาน 40 ปี, 2.ขอให้ตรวจสอบบัญชีสัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตของสัตว์ภายในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพราะจะเกี่ยวโยงกับการซื้อและขายแลกเปลี่ยนสัตว์หรือไม่, 3.ขอให้ปลดหรือย้าย ผอ.ฝ่ายจัดการสัตว์ สัตวแพทย์ที่ไม่สามารถดูแลปกป้องรักษาชีวิตสัตว์ และขอให้ปลอดผู้บริหารที่มีปัญหากับชุมชน และผู้บริหารที่ถูกตรวจสอบจาก สตง.นับสิบกว่าเรื่องด้วย
ข้อ 4.ขอให้คืนอาหารสัตว์ทุกชนิดให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่รอบไนท์ซาฟารี ในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบล ตามที่ทำตามแผนแม่บทในการสร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นพันธะสัญญาเดิมที่ให้ไว้กับชุมชนตามร่าง พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 ที่รัฐบาลสนับสนุนให้เข้มแข็งยืนได้ด้วยตัวเอง ผลประกอบการรายได้ตกถึงมือเกษตรกรอย่างทั่วถึง และเป็นธรรมไม่ต้องการให้ตกกับนายทุนหรือเอกชนบางรายหรือเจ้าหน้าที่บางคนที่มีส่วนร่วมเพียงรายเดียว จึงแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบปัญหาดังกล่าว ก
ซึ่งเรื่องร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2559 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รับเรื่อง และให้วิสาหกิจชุมชนแจ้งย้ายที่ทำการใช้เลขที่บ้านแห่งใหม่แล้วให้เกษตรอำเภอจดทะเบียนให้ใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีปัญหา จากที่วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลผลิตอาหารสัตว์ เข้าพบนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่มีผู้บริหารไนท์ซาฟารีและนักวิชาการกรมวิชาการเกษตรเข้าพบก่อนหน้าแล้ว และพื้นที่ดังกล่าวที่วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 4 ตำบลอยู่ก็ถือว่าเป็นที่ของราชพัสดุของกรมธนารักษ์ในขณะนี้.
ร่วมแสดงความคิดเห็น