ผอ.การท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมความพร้อม ช่วงหมอกควัน

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับมือหมอกควัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อการบิน
วันที่ 21 ก.พ.60 น.อ.วิสูธ จันทนา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงมาตรการและการดำเนินการ ในช่วงเกิดปัญหาหมอกควัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อวิสัยทัศน์การมองเห็น และการนำเครื่อง ขึ้น-ลง ของสายการบิน ที่ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงของการเกิดปัญหาทัศนวิสัยต่ำ ที่เป็นอันตรายต่อการบินและการปฏิบัติงานในเขตการบินเป็นอย่างมาก โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ในสภาวะอากาศเลวร้ายและทัศนวิสัยต่ำ พร้อมทั้งได้แจ้งให้กับทางหอบังคับการบิน , เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ , และเจ้าหน้าที่ของบริษัทสายการบิน หรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามขั้นตอน และได้จัดโครงการฝึกซ้อมเพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดทัศนวิสัยต่ำ เป็นประจำทุกปี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ทาง น.อ.วิสูธ จันทนา ผอ. กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงระยะนี้ปัญหาหมอกควัน เป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแน่นอนว่าทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ได้มีการวางมาตรการรับมือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หากหมอกควันที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มเพิ่มจำนวนมาก โดยทางท่าอากาศยานฯ มีขั้นตอนปฏิบัติเกี่ยวกับ Low –Visibility หรือที่เรียกว่า ทัศนวิสัยต่ำ โดยจะต้องมองว่าการบิน ขึ้น-ลง ของอากาศยาน สามารถมองเห็นได้ในระดับใด ซึ่งในจุดนี้หากไม่เกินขีดจำกัดตามมาตรฐาน ก็สามารถ ขึ้น-ลง ได้ แต่หากตรวจสอบแล้วว่ามีมาตรฐานที่เกิดขีดจำกัด เช่น มองทางวิ่ง ทางขับ ไม่เห็น ก็ต้องให้นักบินบังคับเครื่องวน รอจนกว่าอากาศจะเปิด เพื่อความปลอด ภัยในการนำเครื่อง ขึ้น-ลง
ขณะเดียวกันในส่วนของประชาชนชาวบ้าน ที่อยู่ในเขตพื้นที่โดยรอบสนามบินนั้น ที่ผ่านมาทางท่าอากาศยานของเราก็ได้มีการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอว่า สิ่งใดก็ตามที่จะเป็นอุปสรรคต่อการบิน ก็พยายามแนะนำว่าอย่าทำดีกว่า เนื่องจากมีผลกระทบต่อการบิน หากเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของการบินนั้น ก็จะเป็นผลกระทบที่รุนแรง จึงได้มีการกำชับกันเสมอมา แต่อย่างไรก็แล้วแต่หากมีการเกิดขึ้นจริง หรือปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นมีปริมาณมากเกินค่ามาตรฐาน ทางท่าอากาศยานก็ได้มีการใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำไปในอากาศ เพื่อให้เกิดความชื้น ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาหมอกควันลงได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้ทางท่าอากาศยานฯก็ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี และนอกจากนี้ ในส่วนของราชการเองก็ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากมีหมอกควันสูงขึ้นก็จะใช้เครื่องบินทำการโปรยน้ำ โดยทางท่าอากาศยานฯก็ช่วยสนับ สนุนในเรื่องน้ำ ร่วมกันกับกองบิน 41 รวมไปถึงทุกหน่วยงานราชการที่ใช้เครื่องบินโปรยน้ำ ซึ่งดำเนินการกันเป็นประจำทุกปี

ทัศนวิสัย ในทางอุตุนิยมวิทยาหมายถึง เกณฑ์การมองเห็นซึ่งมีระยะไกลที่สุด ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา
ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อทัศนวิสัย ทำให้ทัศนวิสัยต่ำคือ
1.หยาดน้ำฟ้า (Precipitation)
2. หมอกและหมอกน้ำค้าง (Fog and Mist)
3. ฝอยน้ำอันเกิดจากลม จากทะเล (Wind-blown Spay from the sea)
4.น้ำมัน (Oils)
5. ควัน (Smoke)
6. ฝุ่นและทราย (Dust and Sand)
7. เกลือ (Salt)


ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นอันตรายต่อการบินและการปฏิบัติงาน ในเขตการบินเป็นอย่างมาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ในสภาวะอากาศเลวร้ายและทัศนวิสัยต่ำ โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ, หอบังคับการบิน, เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่, และเจ้าหน้าที่ของบริษัทสายการบิน หรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดสภาวะอากาศเลวร้ายและทัศนวิสัยต่ำ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานในเขตการบิน ต้องปฏิบัติตามรายละเอียดดังนี้

ทัศนวิสัยต่ำ Low –Visibilityแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
1. ระดับการแจ้งเตือนก่อนเข้าสู่สภาวะทัศนวิสัยต่ำ (LVC Warning)
หมายถึง มีค่า RVR (Runway visual range) ตั้งแต่ 800 เมตร
2. ระดับปฏิบัติการทัศนวิสัยต่ำ (LVC Phase A)
หมายถึง มีค่า RVR(Runway visual range) ต่ำกว่า 550 เมตร แต่ไม่ต่ำกว่า 100 เมตร
3. ระดับทัศนวิสัยเลวร้าย (LVC Phase B)
หมายถึง มีค่า RVR(Runway visual range) ต่ำกว่า100 เมตร หรือระยะสายตามองเห็น 1 หลุมจอด
วิธีปฏิบัติของสายการบินและผู้ปฏิบัติงาน ขณะเกิดทัศนวิสัยต่ำ Low –Visibility
–     สังเกตสัญญาณแจ้งเตือน ได้แก่ ลำโพงสัญญาณเสียงแจ้งเตือน ติดตั้งอยู่ที่หลุมจอดอากาศยาน หมายเลข 3 และ 7  และสัญญาณไฟแจ้งเตือน Warning Light ติดตั้งอยู่ที่ช่องทาง 1 (ช่องทางเข้า-ออกลานจอด) และหลุมจอดอากาศยานหมายเลข 3, 5, 7, 12, 17 เพื่อทราบสภาวะทัศนวิสัยต่ำ
–      ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่เวรควบคุมลานจอดอากาศยานประกาศ
–      ระมัดระวังความปลอดภัยแก่อากาศยาน ยานพาหนะ และจัดเก็บอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้น และยึดตึงให้เรียบร้อย
–  ผู้ขับขี่จะต้องขับขี่ยานพาหนะ ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
–  ยานพาหนะเปิดไฟหน้าแสงพุ่งต่ำ
–      ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 20 กม./ ชม ในเขต Service Road และ 10 กม./ชม.ในเขตพื้นที่เคลื่อนไหว Movement Area
–  หน่วยงานที่ปฏิบัติงานบนทางวิ่ง ทางขับ ให้ออกจากพื้นที่ทันที
–  พนักงานผู้ปฏิบัติงานในเขตการบิน ต้องสวมเสื้อสะท้อนแสง
–  ติดแถบสะท้อนแสงที่รถและอุปกรณ์ภาคพื้น
–  ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedures: SOPs) ในสภาวะทัศนวิสัยต่ำของหน่วยงานตนเอง ซึ่งต้องสอดคล้องกับขั้นตอนการปฏิบัติของท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดย ทชม.ได้จัดโครงการฝึกซ้อม เพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดทัศนวิสัยต่ำ เป็นประจำทุกปี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หอบังคับการบินเชียงใหม่ สถานีอุตุนิยมวิทยา  สายการบิน ผู้ประกอบการและผู้รับจ้างภายในเขตการบิน

ร่วมแสดงความคิดเห็น