สกู๊ปหน้า1…ตามรอยพระบาท สร้างอาชีพ ชาวกะเหรี่ยง

ชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ หรือชาวกระเหรี่ยงแม่แจ่ม ตามรอยพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถฯ พัฒนาผ้าทอมือกระเหรี่ยงเป็นแบรนด์ออกขายคนในเมืองและต่างประเทศเลี้ยงปากท้องชาวบ้าน และพัฒนาส่วน

ที่เหลือจากเมล็ดกาแฟเป็นผลิตภัณฑ์ต่อยอด ลดการปลูกข้าวโพดตัวการสร้างปัญหาหมอกควัน ที่สำนักงานไร่พยัคฆ์กาแฟ ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อาจารย์พัชนี สุวรรณวิศลกิจ นักวิชาการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมเกษตรที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นางสาวเขมิยา สิงห์ลอ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทแอชนิก้า นางวริศรา เจริญตระกูล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดโรงแรมดุสิตปริ้นเซสเชียงใหม่ และทีมงานนิตยสารในเครือมาดามจิ๊กกะโร่ เข้าฝึกสอนตามโครงการเส้นทางตามรอยพระบาท พัฒนาส่วนที่เหลือจากเมล็ดกาแฟและดีไซน์ผ้าทอมือกระเหรี่ยง ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพยัคฆ์กาแฟ โดยเป็นพี่น้องชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงหรือชาวปกาเกอะญอในพื้นที่ โดยมีนายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นายกฤษฏิ์ พยัคกาฬ รองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพยัคฆ์กาแฟ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกองแขก ให้การต้อนรับ ซึ่งมีการสอนการพัฒนาส่วนที่เหลือจากเมล็ดกาแฟมาแปรรูปเป็นสินค้าโดยมีอาจารย์พัชนี สุวรรณวิศลกิจ นักวิชาการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมเกษตรที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้สอน ส่วนนางสาวเขมิยา สิงห์ลอ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทแอชนิก้า เป็นผู้สอนเรื่องการพัฒนาต่อยอดดีไซน์ผ้าทะมือกระเหรี่ยง ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว มีการมอบเกียรติบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด

นายกฤษฏิ์ พยัคกาฬ รองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพยัคฆ์กาแฟ เปิดเผยว่า สำหรับตำบลกองแขก เป็นพื้นที่เคยเสด็จทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถฯ โดยพระองค์ได้ให้นำผ้าทอมือกระเหรี่ยงไปถวาย เพื่อดูลายและตรวจสอบผ้าทอมือดังกล่าว การทอผ้าของคนที่นี้ซึ่งเป็นของคนปกาเกอะญอเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นการทอโดยใช้เวลาหลังจาการเก็บเกี่ยวพืชไร่ เช่นข้าว หรือกาแฟ โดยการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมให้มีรายได้ในการเลี้ยงปากท้องของเขาได้ โดยพระองค์เสด็จมีพระประสงค์เรื่องนี้ โดยที่ให้ชาวบ้านอยู่กับป่า และส่งเสริมให้มีรายได้จากศิลปาชีพที่ทรงเสด็จเข้ามาที่นี้

ด้านนางสาวเขมิยา สิงห์ลอ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทแอชนิก้า กล่าวว่า ตัวแทนของแบรนด์แอชนิก้า ที่นำผ้าทอของชนเผ่า ไปพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อขายในตลาดของคนในเมืองและต่างประเทศ ซึ่งมาเห็นผ้าทอวันนี้ก็มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ เพื่อต่อยอดขายคนในเมืองและตลาดต่างประเทศได้ โดยใช้เวลาว่างจากเกษตร โดยที่เค้ามีทางเลือกอื่นที่ไม่ต้องไป ปลูกข้าวโพด กลางแดดร้อนๆ กำไรก็ไม่ค่อยได้ แต่มาใช้เวลาทอผ้าเพื่อเป็นกำไรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้มากพอที่จะต้องไม่ไปปลูกข้าวโพดก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

นายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของอำเภอแม่แจ่ม พี่น้องในพื้นที่ปลูกข้าวโพดกันมากถึง 170,000 ไร่ โดยปี 2559 ที่ผ่านมาปลูกกันถึง 110,000 ไร่ ในการปลูกข้าวโพดก็จะมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเช่นต้นข้าวโพด เปลือกข้าวโพด ซังข้าวโพด ในแต่ละปีไม่ได้ใช้ก็จะเผา เผาเสร็จก็เป็นปัญหาหมอกควัน ฉะนั้นการแก้ปัญหาหมอกควันของเชียงใหม่ส่วนหนึ่งโดยเฉพาะอำเภอแม่แจ่ม ก็ต้องหาอาชีพอื่นนอกจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเช่นข้าวโพด วันนี้ก็มีโครงการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่รวมกลุ่มกันซื้อกาแฟที่ปลูกในพื้นที่ในเขาในชายป่าปลูกมานานกว่า 30 กว่าปี แล้วรวบรวมทำผลิตภัณฑ์โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ จนเป็นกาแฟที่ทานได้ การปลูกกาแฟก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่ง สำหรับเกษตรกรแม่แจ่ม นอกจากนั้นการอบรมวันนี้ก็มีการสอนผลิตภัณฑ์การสอนทำผ้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำขายทางเน็ตทางต่างประเทศก็ได้ราคาดีอยู่ที่ทีมงานจะติดตามและสนับสนุนต่อไป

เจ็ดขุนพล

ร่วมแสดงความคิดเห็น