เจอตัวแล้วคนขับขี่รถ ชนครอบครัวนักท่องเที่ยว จนลูกสาววัย 3 ขวบเข้า รพ.

คืบหน้าครอบครัวนักท่องเที่ยว หลังลูกสาววัย 3 ขวบ ประสบอุบัติเหตุ รถ จ.ย.ย.ชนจนอาการสาหัส นอนรักษาตัว รพ. ล่าสุดคนขับรถเดินทางเข้ามอบตัวแล้วที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ที่แท้เป็นชาวแคนาดา ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวสอบปากคำพร้อมเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทางครอบครัวผู้เสียหาย ยังห่วงอาการของลูกสาววิงวอนขอให้หายดี

วันที่ 24 ก.พ.60 เสื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทางผู้สื่อข่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลูกสาววัย 3 ขวบ ต้องประสบอุบัติเหตุมี รถ จ.ย.ย.ที่ขับขี่โดยชาวชาวต่างชาติคนหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนอย่างจัง ขณะกำลังเดินข้ามถนน บริเวณแจ่งศรีภูมิ ด้านนอกคูเมือง ซึ่งระหว่างนั้นลูกสาวได้นั่งอยู่ภายในรถเข็นเด็ก จนทำให้ร่างกระเด็นร่างกายและศีรษะกระแทกกับพื้นถนน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งระหว่างเกิดเหตุนั้นมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและนำตัวส่งเข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียู ของ รพ.เชียงใหม่ราม

ส่วนทางคนขับขี่รถ จ.ย.ย.ที่พุ่งชนรถเข็นเด็กได้หลบหนีไป ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าเป็นรถลักษณะคล้ายบิ๊กไบค์ ที่มีการติดกล่องใส่ของสีดำด้านหลัง โดยในเวลาต่อมาทาง นายศราวุธ จินนะแก้ว อายุ 35 ปี ชาวเชียงใหม่ ผู้ใช้เฟซ  บุ๊คชื่อ “Nguitar Tunyasiri” ก็ได้มีการโพสต์เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล เพื่อขอความช่วยเหลือผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เกี่ยวข้อง ได้เร่งตามหาตัวคนขี่รถ จ.ย.ย.ที่หลบหนีไปมารับโทษ ตามที่ทางผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข้อมูลไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ทาง พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภ.5 ได้เดินทางไปยังห้องไอซียู ของ รพ.เชียงใหม่ราม เพื่อเข้าเยี่ยมและมอบกระเช้าให้กำลังใจ แก่ครอบครัวของเด็กวัย 3 ขวบ ที่ได้รับอุบัติเหตุ ทราบชื่อคือ นายมาร์ค แอนซารี่ (Mr.Mark Ansari) อายุ 56 ปี ชาวอังกฤษ ผู้เป็นพ่อ น.ส. ราเควล ซาลวอดอร์ (Ms.Raquel Salvadar) อายุ 43 ปี ชาวสเปน ผู้เป็นแม่ และด.ญ.โลล่า แอนซารี่ ( Lola Ansari) อายุ 3 ขวบ ลูกสาว ก่อนที่จะเดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีและสอบปากคำผู้ต้องหา

ทราบชื่อภายหลังคือ นายมาคัส คริสโตเฟอร์ (Mr.Markus Christopher) เป็นชาวแคนาดา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ดูภาพจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบตัวผู้ต้องหา เช่าห้องพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ และได้เชิญตัวมาสอบปากคำแล้วในช่วงเช้าวันนี้โดยทาง พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้เด็กน้อยวัย 3 ขวบ คนดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทำให้กะโหลกศีรษะกระทบกระเทือนอย่างหนัก จนสมองบวม และขาหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย ขณะนี้ภาวะคงที่ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะแย่ลง แต่ยังไม่รู้สึกตัวและ ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพ่อแม่ที่มีความเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของลูกสาว

ซึ่งพ่อและแม่ของเด็กเป็นนักท่องเที่ยวประจำของไทย ที่ชื่นชอบเมืองไทยอย่างมาก เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา และที่สำคัญการมาเที่ยวครั้งนี้ คือการมาฉลองวันคล้ายวันเกิดของลูกสาว ในวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา และพากันท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามของเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันดังกล่าว ขณะที่การสอบปากคำเบื้องต้น นายมาคัส คริสโตเฟอร์ ผู้ต้องหาชาวแคนาดา ทราบว่ามีอาชีพเป็นครูสถาบันแห่งหนึ่งในแคนาดา และมาเที่ยวไทยแล้ว 2 ครั้ง โดยให้การว่า ขณะเกิดเหตุนั้นยอมรับว่าขับขี่มาด้วยความเร็วสูงจริง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากปกติแล้วเป็นคนมีทักษะในการขับขี่รถ จ.ย.ย.พอสมควร และไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจังหวะนั้นมีรถโดยสารสาธารณะสี่ล้อแดง ที่บังทัศนวิสัยด้านหน้า ได้ชะลอรถกะทันหัน ตนห้ามเบรกไม่อยู่จึงหักหลบรถ ก่อนจะเห็นว่ามีผู้ใหญ่ชาวต่างชาติกำลังข้ามถนน แต่ตนไม่เห็นรถเข็นเด็กจึงได้ชนกับรถเข็นอย่างแรง หลังจากนั้นตนก็ได้จอดดูเหตุการณ์ แต่หลังจากรู้ว่ามีเด็กได้รับบาดเจ็บ จึงเกิดอาการตกใจกลัว และหลบหนีไปดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่านายมาคัส มีใบขับขี่นานาชาติอยู่ โดยได้เช่ารถ จ.ย.ย.จากร้านป๊อปไรเดอร์ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ และระหว่างขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมทั้งหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ก็เห็นได้ชัดว่าขับขี่มาด้วยความเร็วสูงมาก ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการเชิญตัวแทนทูตจากแคนาดา มาร่วมสอบปากคำอีกครั้ง โดยจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพสิ่งเสพติดหรือไม่

เบื้องต้นหากไม่ได้ดื่มหรือเสพ ก็อาจจะมีการแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย จนบาดเจ็บสาหัส รวมถึงไม่แจ้งไม่ช่วยเหลือ และหลบหนีไป รวมทั้งข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ นอกจากนั้น หลังจากนี้อาจะต้องมีการประชุมกับบริษัทรถเช่าอีกครั้ง ในเรื่องการกำชับ ผู้มาเช่ารถ ในเรื่องกฎกติกาการขับขี่ การจราจรที่ถูกต้องของเมืองไทย โดยเฉพาะความเร็วในตัวเมือง และการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นปัญหาที่กำชับมาโดยตลอด

ทั้งนี้ในส่วนของอาการ ด.ญ.โลล่า แอนซารี่ ( Lola Ansari) ขณะนี้ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู ของ รพ.เชียงใหม่ราม และยังไม่ได้สติ ซึ่งจากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุทราบว่า ได้รับบาดเจ็บสาหัส และศีรษะกระแทกพื้นถนน ทำให้กะโหลกศีรษะกระทบกระเทือนอย่างหนักจนสมองบวม และขาหัก รวมทั้งมีบาดแผลและฟกช้ำทั่วร่างกาย โดยแพทย์และพยาบาลยังคงให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพ่อแม่ที่มีความเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของลูกสาว ซึ่งทางบดิาและมารดาต้องการให้ลูกสาวปลอดภัย และหายกลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น