กู่บรรจุอัฐิครูบาศรีวิชัยในล้านนา

หลังจากที่ครูบาศรีวิชัยได้อาพาธด้วยโรคริดสีดวงทวาร จนกระทั่งในเดือนมกราคม แรม 5 คํ่า พ.ศ.2481 ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่วัดจามเทวีลำพูนอาการของท่านอยู่ในขีดอันตราย ครูบาศรีวิชัยได้บอกกับลูกศิษย์ว่าต้องการจะกลับวัดบ้านปาง บรรดาลูกศิษย์ของท่านจึงได้พาท่านกลับบ้านปาง

เมื่อถึงวัดบ้านปางครูบาศรีวิชัยได้พักรักษาตัวอยู่ในกุฎินอกวัด จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2481 เวลา 00.05 น. 30 วินาที ล่วงเข้าสู่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ครูบาศรีวิชัยค่อยๆ คลายลมหายใจสุดท้ายออกจากร่างด้วยอาการสงบ สิริอายุ 60 ปี 8 เดือน 10 วันตรงกับวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2481 ปีขาล ได้ตั้งสรีระของท่านไว้ที่วัดบ้านปาง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจึงได้เคลื่อนสรีระของครูบาศรีวิชัยมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่ท่านได้บูรณะซ่อมแซมและสร้างวิหารขึ้นใหม่ จนกระทั่งในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2489 จึงได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิง ทางสำนักพระราชวังจึงได้มอบหมายให้พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี และจอมพล ป.พิบูลสงคราม ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังอัญเชิญเพลิงพระราชทาน เมื่อมาถึงสถานีรถไฟลำพูนแล้วข้าราชการและประชาชนพร้อมกันอัญเชิญเพลิงพระราชทานแห่มายังวัดจามเทวี ฝ่ายคณะสงฆ์ได้มีการอาราธนาพระพิมล (อาจ อาสภะ) วัดมหาธาตุซึ่งเป็นเจ้าคณะภาคพายัพเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ศพครูบาศรีวิชัยตั้งบำเพ็ญพระราชกุศล 15 วัน 15 คืน ได้จัดให้มีมหรสพนานาชนิดขึ้นในบริเวณรอบวัดจามเทวี นับเป็นงานศพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดลำพูน ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพากันเดินทางมาเคารพศพครูบาศรีวิชัยเป็นครั้งสุดท้ายมากที่สุดในล้านนาอย่างไม่เคยมีมาก่อน

งานบำเพ็ญพระราชทานกุศลศพครูบาศรีวิชัยดำเนินไปจนครบ 15 วัน เมื่อถึงวันกำหนดพระราชทานเพลิงศพ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพระราชพิธีได้อาราธนาศพครูบาศรีวิชัยใส่ในโกศและอาราธนาขึ้นสู่เมรุปราสาท เวลา 12.00 น. พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีได้อัญเชิญเพลิงพระราชทานมาจุด พระสงฆ์สมณศักดิ์สวดหน้าไฟเป็นเสร็จพิธี จากนั้นเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนจึงได้จุดพระเพลิงเผาจริง บรรดาสานุศิษย์ทั้งหลายจึงตกลงแบ่งอัฐิครูบาศรีวิชัยเป็น 6 ส่วน นำไปประดิษฐานไว้ 5 จังหวัดได้แก่ 1.ให้แก่ชาวอำเภอลี้นำไปบรรจุไว้ที่มณฑปวัดบ้านปาง อันเป็นถิ่นกำเนิดของครูบาศรีวิชัย 2.บรรจุไว้ในสถูปที่วัดจามเทวี อันเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยได้มาบูรณะซ่อมแซมสร้างวิหารหลวงเป็นวัดสุดท้ายของชีวิต และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่บรรจุไว้ที่สถูปวัดสวนดอก 4.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายบรรจุไว้ที่สถูปวัดศรีโคมคำ (วัดพระเจ้าตนหลวง จ.พะเยา) 5.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางบรรจุไว้ที่สถูปวัดพระแก้วดอนเต้า 6.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่บรรจุไว้ที่สถูปวัดพระธาตุช่อแฮ

ทั้งนี้เพื่อศรัทธาประชาชนในล้านนาได้มีโอกาสกราบไหว้สักการะและน้อมรำลึกถึงพระคุณของครูบาศรีวิชัย ที่ท่านได้เดินทางมาบูรณะสร้างวัดต่างๆทั่วภาคเหนือ

ครูบาศรีวิชัย จึงนับเป็นแบบอย่างของพระพัฒนาที่สร้างคุณูปการต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูนและล้านนาเป็นอย่างมาก แม้วันนี้ครูบาศรีวิชัย หรือ พระศีลธรรม จะมรณภาพมานานกว่า 60 ปี ทว่าชื่อเสียงของท่านยังคงอยู่ในศรัทธาของชาวล้านนาไม่เสื่อมคลาย

บทความโดย
นเรนทร์ ปัญญาภู
นักจดหมายเหตุอิสระ

จักรพงษ์ คำบุญเรือง
[email protected]

ร่วมแสดงความคิดเห็น