1 เดือน กับมาตรการประกาศห้ามเผาเด็ดขาด แก้ปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ

15 มีนาคม 2560 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ ถือเป็น 1 เดือน ของการดำเนินมาตรการห้ามเผาเด็ดขาด ในช่วงวิกฤตของหลายพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ เนื่องจากที่ผ่านมาภาคเหนือจะประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมในช่วงฤดูแล้งทุกปี โดยมีสาเหตุมาจากการลักลอบเผา เพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ การเผาเศษวัสดุการเกษตร และด้วยสภาพภูมิประเทศที่หลายพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาล้อมรอบ ประกอบกับความกดอากาศสูง ทำให้สภาวะอากาศนิ่ง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งการประกาศห้ามเผาเด็ดขาดของทั้ง 9 จังหวัดในปีนี้ แต่ละจังหวัดกำหนดและบูรณาการการทำงานในลักษณะ Single Command โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ภายใต้กลไกของพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550

ในช่วง ๑ เดือน ของช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด หลายจังหวัดได้มีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น รวมถึงเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มีการประชุมเน้นย้ำถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ทำให้วันนี้พบว่าสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ของปี 2560 ดีกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลา ตั้งแต่วันแรกของการประกาศห้ามเผาจนถึง 14 มีนาคม โดยจำนวนวันที่เกินเกณฑ์มาตรฐานในปีนี้ มีจำนวน 9 วัน ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีจำนวนรวมถึง 17 วัน สำหรับปริมาณฝุ่นละอองในช่วงเดียวกันนี้ พบว่าปี 2560 ปริมาณฝุ่นละอองสูงสุด มีค่า 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ปี 2559 มีค่า 208 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน น่าน แพร่ และพะเยา ปริ มาณฝุ่นละอองยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ 1 มกราคม – ปัจจุบัน

แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 14 – 19 มีนาคม 2560 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะหมอกควันเจือจางลงไปได้บ้าง อย่างไรก็ตาม หากยังมีการเผาในพื้นที่ ก็อาจส่งผลทำให้ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นได้ กรมควบคุมมลพิษ จึงยังคงขอให้ทุกจังหวัดระดมสรรพกำลังเฝ้าระวังการเกิดไฟ และดับไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์ และขอความร่วมมืองดการเผาป่า และเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลฝุ่นละอองและมลพิษอื่นตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ เว็บไซด์ air4thai.pcd.go.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น