เมื่อเวลา 08.00. วันที่ 17 มี.ค. 60 พ.ต.ท.อุทัย คาดชะดาคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายคุ้มคลั่ง อาละวาดและใช้อาวุธปืนยิง จนท.ตำรวจ ขณะเข้าระงับเหตุ เป็นเหตุให้ตำรวจเสียชีวิตทันที 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย และคนร้ายถูก จนท.วิสามัญเสียชีวิตตายตามไปรวม 2 ศพ เหตุเกิดในบ้านเลขที่ 50 หมู่ 10 ต.แม่แฝกใหม่ ภายหลังจากได้รับแจ้ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วงศ์พัทธ์ จำรูญพันธ์ ผกก.ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร จนท.กู้ภัย
ต่อมา พล.ต.ต.มนตรี สัมปุณณานนท์ รอง ผบช.ภ. 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.ท.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ. 5 เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ ปลูกอยู่ในสวนลำไย 2 หลัง บริเวณหน้าบ้าน พบศพ ด.ต.อุทัย มณีขัตย์ อายุ 52 ปี ผบ.หมู่ งาน ป.สภ.แม่แฝก นอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงายคาเครื่องแบบตำรวจ สภาพศพ โดนอาวุธปืน ลูกซองเข้าบริเวณซี่โครงซ้ายกระสุนทะลุหัวใจ และถูกฟันด้วยมีดดาบซามูไร เข้าที่บริเวณปากด้านขวาเป็นแผลยาว
ห่างจากจุดเกิดเหตุเข้าไปในสวนลำไยหลังบ้านพบศพ นายนิคม จุ่มแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.10 ต.แม่แฝกใหม่ นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า ถูกยิงกลางลำตัว ในมือถือมีดดาบซามูไร และอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ยังทราบอีกว่ามี ด.ต.ปิยะศักดิ์ ต้นคุณ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.แม่แฝก ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย และ จนท.ตำรวจได้นำไปส่งโรงพยาบาลแล้ว
สอบสวน นายปัน จุ่มแก้ว อายุ 65 ปี พ่อของคนร้าย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมีอาการคุ้มคลั่งถือมีดดาบไล่ทำร้ายคนในบ้าน เนื่องจากผู้ตายเป็นลูกชายคนของตน เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติด และคงจะหันกลับไปเสพยาอีก จนมีอาการคุ้มคลั่ง จึงแจ้งตำรวจ จนกระทั่ง ด.ต.อุทัย ผู้ตาย มาพร้อมกับ ด.ต. ปิยะศักดิ์ คนเจ็บ และเพื่อนๆ อีก 2 นาย รวมมีตำรวจ 4 นาย ทันทีที่ ด.ต.อุทัย เข้ามาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ลูกชาย ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ยิงสาดใส่ตำรวจ โดน ด.ต.อุทัย เสียชีวิต จากนั้นลูกชายก็วิ่งเอามีดดาบมาฟันซ้ำ ก่อนแย่งปืนประจำกายของคนตายหลบหนีไปหลังบ้าน จังหวะเดียวกันนั้น ด.ต.ปิยะศักดิ์ ออกจากที่กำบัง วิ่งไปเพื่อยิงต่อสู้ ลูกชายได้ยิงสวนเข้ามาถูกบริเวณลำตัว ล้มลงอีก 1 คน จากนั้น ตำรวจที่เหลือ 2 นาย วิ่งไล่ยิงลูกชายจนเสียชีวิตในที่สุด
พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นความสูญเสียของทางตำรวจอีกครั้งเนื่องจากเหตุไม่คาดคิดว่า คนร้ายมีอาวุธปืน และยังก่อเหตุ แย่งปืนยิงตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย จากนี้ไปต้องดูแลครอบครัวของ ด.ต.อุทัย ผู้เสียชีวิต ว่าจะช่วยเหลือตามขั้นตอนอย่างไร เนื่องจากเสียชีวิตในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ และทราบว่า มีภรรยา ชื่อ นางอารีย์ มณีขัตย์ อายุ 52 ปี และมีลูกสาวเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ มช.ชั้นปีที่ 4 ด้วย ซึ่งจะต้องสอบถามไปยังลูกสาวว่า จะสนใจรับราชการตำรวจหรือไม่ หากสนใจก็จะรับเข้าเป็นตำรวจตามระเบียบ ส่วนการปูนบำเหน็จให้กับ ผู้ตาย ก็คงจะต้อง พิจารณาให้ 7 ชั้นยศ 5 ขั้นเงินเดือน จากยศ ดาบตำรวจ เลื่อนยศ เป็น พันตำรวจโท ตามขั้นตอนด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น