โวยเจ้าหน้าที่รัฐ ทำงานล่าช้าคดีบุกรุกที่ดิน

เจ้าของที่ดินโวย ฟ้องร้องต่อสู้คดีบุกรุกที่มานาน เกือบ 5 ปี ศาลตัดสินให้ชนะคดีความ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบปี ทางตำรวจกลับไม่ทำอะไร คนผิดยังดำเนินชีวิตปกติ และไม่ย้ายออกนอกพื้นที่บุกรุก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เม.ย. 60 ที่ สภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน นายยิ่งศักดิ์ โกวิทวณิชชา ผู้เสียหายคดีปลอมแปลงเอกสารและถูกบุกรุกที่ดินเพื่อสร้างบ้าน โดยได้รับความเสียหายเดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.สมชาย แช่มช้อย ผกก.สภ.บ้านโฮ่ง เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีถูกบุกรุกที่ดินเพื่อสร้างบ้านทั้ง ๆ ที่ในโฉนดที่ดินนั้นเป็นของตนเอง โดยทาง พ.ต.อ.สมชาย ได้ให้ทาง พงส.รับเรื่องทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายยิ่งศักดิ์ โกวิทวณิชชา ผู้เสียหายกล่าวว่า ที่เดินทางมาพบกับตำรวจวันนี้ เพื่อมาทวงถามความคืบหน้าของคดีความที่ศาลตัดสินแล้ว แต่ยังหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ ซึ่งแท้จริงแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องดำเนินการตามกระ บวนการของกฎหมาย นำตัวผู้ที่กระทำความผิดมารับทราบข้อหาหรือดำเนินคดี แต่คดีกลับอืดอาดล่าช้า ขืนปล่อยไว้แบบนี้ คนทำผิดก็ลอยนวล เจ้าหน้าที่ทำงานแบบนี้แล้วประชาชนตาดำ ๆ จะขอพึ่งพาใครได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันยังได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ดินประมาณ 7 ไร่ พบว่า ริมถนนมีการสร้างบ้านหลังหนึ่งรุกล้ำเข้ามายังที่ดินของ นายยิ่งศักดิ์ ผู้เสียหาย หลายตารางวา โดยพบว่า เจ้าของบ้านยังมีการวาดรูปการ์ตูนถือปืนข่มขู่เจ้าของที่ดินด้วย นายยิ่งศักดิ์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องมาเร่งรัดติดตามคดีนี้ เนื่องจากตนเองมาซื้อที่ดิน จำนวน 7 ไร่ 2 งาน เศษที่ ต.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง เมื่อปี 2554 แต่เมื่อซื้อแล้วปรากฏว่ามีการปลอมแปลงเอกสารบิดเบือนไป แถมยังมีการปลูกบ้านรุกล้ำเข้ามาในที่ดินอีก จึงได้ทำการฟ้องร้องดำเนินคดี โดยใช้เวลาต่อสู้ในชั้นศาลตามกระบวนการทางยุติธรรมมากว่า 5 ปีแล้ว

จนศาลตัดสินออกมาแล้วว่ามีการรุกล้ำที่ดินของตนจริง ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านเกือบ 1 ปี ปรากฎว่าตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการกับคนผิดได้ จึงมาทวงถามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.บ้านโฮ่ง โดยเฉพาะการตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ โดยตนขอให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีปลอมเอกสารและปลูกบ้านทับที่ตนหลังศาลตัดสิน แต่ยังหาตัวผู้กระ ทำผิดไม่ได้ ซึ่งเกี่ยวกับคดีนี้มีคนพัวพันกับคนหลายกลุ่ม มีทั้งข้าราชการและบุคคลที่กระทำความผิดร่วมกันหลายราย จึงต้องเร่งดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้สังคมรับรู้และไม่ให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเหมือนตนเอง ที่ผ่านมาตนไปต่อสู้ทางคดีก็ต้องใช้เงินและเวลามาก ใช้เวลาหลายปี แม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่ถูกต้องก็ตาม ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแล จึงอยากให้สังคมรับรู้และช่วยกันปกป้องสิทธิของตนเอง เจ้าหน้าที่ทำงานแบบนี้ แล้วประชาชนจะพึ่งพาใครได้ นายยิ่งศักดิ์กล่าว.