อดีต ผกก.ตม.เชียงใหม่ ร้องศูนย์ดำรงธรรม กรณีถูกเพิกถอนที่ดิน อ.สะเมิง

เมื่อเวลา 10.30 น วันที่ 24 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ได้มี พ.ต.อ.ไพโรจน์ แพรสกุล อดีตรอง ผบก.ตม.สุวรรณภูมิ และอดีตเคยดำรงตำแหน่ง ผกก.ตม.เชียงใหม่ นำเอกสารหลักฐานที่ดินของตนเอง รวมทั้งเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของหน่วยงานราชการ ทั้งของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และที่ดินของคนเชียง ใหม่บางคน เข้ายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยเป็นพื้นที่ดินของตนเองกับเพื่อนบ้าน 2 ราย ในพื้นที่บ้านห้วยหนองหล่ม ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เนื้อที่รวมประมาณ 14 ไร่ ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก ยื่นต่อนาย นวพร แสงหนุ่ม นักวิชาการนโยบายและแผน ชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่

เพื่อขอความเป็นธรรม โดยได้ยืนยันว่าตนเองได้ซื้อที่ดินมาจากชาวบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในขณะนั้น เมื่อปี 2548 ซึ่งเจ้าของที่ดินได้ปลูกต้นไม้สักไว้ 1 พัน 200 ต้น ไว้เรียบร้อยแล้ว และได้เสียชีวิตลง ต่อมาในปี 2557 ได้มีหน่วยงานราชการ และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ทำหนังสือร้องเรียน กล่าวอ้างว่า ตนได้บุกรุกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า 90 พรรษา และมีการออกเอกสารสิทธิ์ ทับป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า 90 พรรษา ซึ่งได้ปลูกป่าไม้สักไปแล้วเมื่อปี 2534 ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมรับปากว่า จะนำไปเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณา

การเข้ายืนหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมกับนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ. เชียงใหม่ เพื่อนำเอกสารหลักฐาน ที่ตนเองนำมายื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมวันนี้ เพื่อให้นำไปพิจารณาไปเป็นข้อมูลประ กอบการตัดสิน ในการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐ จ.เชียงใหม่ หรือ กบร. ซึ่งจะมีการพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าว ในวันที่ 25 เมษายน 2560 ด้วย เนื่องจากวันประชุมมีเฉพาะคณะอนุกรรมการ กบร. เข้าประชุมเท่านั้น ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดินเข้าที่ประชุมด้วย ตนเองเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้

พ.ต.อ.ไพโรจน์ แพรสกุลทิพย์ ได้เปิดเผยอีกว่า และจากการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ก็ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางคนและเจ้าหน้าที่ดิน ซึ่งตนมีรายชื่อทั้ง 2 คน นั้นได้เป็นตัวการในการปลอมแปลงเอกสารต่าง ๆ ขึ้นมาและอ้างเบื้องสูงว่าที่ดินดังกล่าว เป็นพื้นที่ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่าฯ อีกด้วย แท้จริงแล้วพื้นที่ดินของตนทั้งสอง ไม่ใช่เลย แต่เป็นการแอบอ้างและเอาที่ดินอีกที่ มาสวมและบอกว่าเป็นพื้นที่ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อสมอ้างในการเสนอเพิกถอนที่ดินของตนกับเพื่อนบ้าน สาเหตุลึกๆ นั้นมาจาก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ดังกล่าวนั้น มีเรื่องขัดแย้งกับเจ้าของที่ดินคนเดิม กรณีมีการยักยอกเอาต้นกล้าจากกรมป่าไม้มาจำหน่ายให้กับเจ้าของที่ดินคนเดิม ในวงเงิน 30,000 บาท และเจ้าของที่ดินคนเดิมยอมจ่ายเงิน

กระทั่งเจ้าของที่ดินคนเดิมได้ขายที่ดินให้กับตน ครอบครอง ต่อมาเจ้าของที่ดินคนเดิมได้เสียชีวิตไป ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับเจ้าหน้าที่ดินทั้งสองนั้น มีอคติ หากเรื่องกลั่นแกล้ง โดยอ้างเบื้องสูงว่าที่ดินของพวกตนเป็นป่าเฉลิมพระเกียรติ และเสนอเพิกถอน และจากการได้เอกสารของเจ้าหน้าที่ทั้งสองมานั้น พบว่าเป็นเอกสารที่ถูกกระทำขึ้นและเป็นเท็จทุกอย่าง แม้แต่ลายเซ็นของชาวบ้าน ก็ใช้วิธีก๊อปปี้การประชุมของชาวบ้านมาสวมใส่ในเอกสารที่พวกเขาทำขึ้นอ้างว่าชมรมชาวบ้านหมู่บ้านร่วมกันเซ็นชื่อหางว่าว อยากให้ทางผู้ว่าฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการทั้งสองคนนี้ด้วย ที่กระทำการหมิ่นเบื้องสูงแอบอ้างเบื้องสูง เพียงเพื่อต้องการผลประโยชน์และเรื่องส่วนตัว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว