ผู้ตรวจการ กระทรวงทรัพย์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาเขาหัวโล้น ในพื้นที่ อ.พร้าว

ผู้ตรวจราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ดำเนินงานคืบหน้าไปมาก โดยย้ำแนวทางปฏิบัติเพื่อรักษาป่าอย่างยั่งยืน

ช่วงบ่ายเวล 14.00 น. วันที่ 25 เม.ย.60 นายประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะติดตาม ได้เดินทางเข้าดำเนินการติดตามผลการปฏิบัติงาน การแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา พร้อมลงพื้นที่เป้าหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนเขาสูงชัน ที่บ้านห้วยกันใจ หมู่ 11 ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 8 แสนไร่ใน 3 อำเภอ 15 ตำบล 180 หมู่บ้าน เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่า โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 55 ปัจจุบันพบว่าปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ลดลง และสถิติการจับกุมดำเนินคดีใน 4 เดือนนี้มีเพียง 5 คดีที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า

โดยทาง นายประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการที่ทางอุทยานแห่งชาติศรีลานนาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ได้ดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปราม การดึงพลังมวลชนร่วมแก้ไขปัญหา การปลุกจิตสำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติแก่คนในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้มาตั้งแต่ปี 2555 พบว่าการดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรลดลงเป็นจำนวนมาก โดยพบว่าสถิติของการจับกุมและดำเนินคดี ในปี 2560 มีเพียง 5 คดี ข้อหาลักลอบตัดไม้ ซึ่งลดลงจากปี 2555 ที่มีกว่า 1,500 คดี ที่ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย

สำหรับการทวงคืนพื้นที่ป่า ในพื้นที่เป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนเขาสูงชันเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ทั้งหมด 63,299 ไร่ ห้วงปี 2559-2560 ได้ดำเนินการทวงคืนผืนป่าไปแล้วกว่า 6,700 ไร่ และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอคืนเพิ่มอีก 1,750 ไร่ ทั้งนี้ผู้ตรวจราชการฯ กล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายทวงคืน และฟื้นฟูพื้นที่ป่า ร้อยละ 32 ของประเทศ หรือ 102 ล้านไร่ ในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคเหนือนั้นมีพื้นที่ป่าต้องทวงคืนและฟื้นฟู 8 ล้านไร่ หนึ่งในนั้นคืออุทยานแห่งชาติศรีลานนา ซึ่งได้ดำเนินการมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งการทวงคืนและฟื้นฟูป่า

ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำการเดินหน้าเจรจาขอคืนพื้นที่ในจุดอื่นควบคู่ไปด้วย และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แก่พื้นที่เขตอุทยาน และแม้ว่าคดีจะลดน้อยลง แต่ปัญหาด้านป่าเสื่อมสภาพ ป่าเสื่อมโทรม ยังมีให้เห็นเป็นจำนวนมาก จึงเร่งแก้ไขและปรับปรุงป่าคืนมาสู่สภาพปกติ รวมทั้งปลูกฝังชุมชนให้คอยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังผู้บุกรุก จะลอบเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า รวมทั้งย้ำให้มีการนำเยาวชนในพื้นที่ มาร่วมทำกิจกรรม สร้างความตระหนักต่อปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความรักหวงแหนแก่ผืนป่า และร่วมรักษาป่าตลอดไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น