บิ๊กขรก.สะดุ้ง! ซัดซื้อกามเด็ก ตร.ยันมีหลักฐานจับ ผู้ว่าแม่ฮ่องสอนแจง ล้านเปอร์เซนต์ไม่ยุ่ง

บิ๊กภาค 5 สั่งให้ออกราชการ นายดาบตำรวจเอี่ยวพัวพันค้ากาม ส่วนสองสาวถูกจับพร้อมนำเข้ากรุงสอบทันที คดีนี้ทำเอาบิ๊กข้าราชการใน จ.แม่ฮ่องสอน สั่นสท้านไปตามๆ กัน โดยผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนถึงกับเปิดแถลงข่าวต่อสื่อห้องที่ทำงานในศาลากลาง ยืนยันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ ล้านเปอร์เซนต์ ส่วนรองผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการจากเด็กสาว เช่นกัน

จากกรณี มีการร้องเรียนผ่านสื่อ ว่าเกิดขบวนการค้ามนุษย์ โดยคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง ใช้ยาเสพติดหลอกล่อ และถ่ายคลิปแบล็กเมล์ให้ค้าประเวณี ซึ่งมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังจากเกิดเหตุทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 สั่งให้ตรวจสอบเรื่องนี้เร่งด่วนและจะต้องนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้หมดทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่ง คนมีสี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ข่าวความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 เม.ย. 60 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมชุดทำงานคดีนี้และได้แบ่งงานกันสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมอีกด้วย โดยได้ให้ชุดสืบสวนภาค 5 ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก ส่วนคดีนี้ทางตำรวจภาค 5 ได้ขออนุมัติหมายจับ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ แล้ว ในข้อหาเป็นธุระจัดหา โดยมีผลให้ ด.ต.ยุทธ ออกจากราชการในทันที นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมในการก่อคดีนี้ด้วยอีก 2 คน ซึ่งก็โดยข้อหาเดียวกับ ด.ต.ยุทธ ในส่วนข้อหาค้ามนุษย์ นั้นเนื่องจากทางตำรวจภาค 5 เคยเสนอไปยังอัยการจังหวัด แล้วแต่ก็ไม่ได้รับการเห็นชอบหรือตอบมา เราได้ให้ข้อหาเดียว ตอนนี้ก็เท่ากับว่า ด.ต.ยุทธชัย พร้อมกับพวกโดย 2 หมาย ของภาค 5 โดยข้อหาเป็นธุระจัดหา และที่ส่วนกลาง บก ปคม. ได้ขออนุมัติหมายจับในคดี ค้ามนุษย์

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กลุ่มองค์กรของจังหวัดแพร่ กลุ่มหนึ่งออกมาแสดงความไม่พอใจที่มีการย้าย ด.ต.ยุทธชัย ไปที่ จ.แพร่. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ได้เปิดเผยว่า ตนนั้นเกิดที่ จ.แพร่ เป็นคนจังหวัดแพร่ ทำไมจะไม่รู้ การย้าย ตำรวจไปจุดไหนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พวกที่ออกมาต่อต้านนั้นตนเข้าใจและรู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ด.ต.ยุทธชัย ก็ถูกออกหมายจับแล้ว ก็คือต้องออกจากราชการแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้ ตำรวจในเขตรับผผิดชอบของตน 8 จังหวัดภาค เหนือตอนบน ให้ดำเนินการตรวจสอบแหล่งค้าประเวณี และสถานบันเทิงที่ไม่ถูกต้องที่มีสาวบริการ ทุกแห่ง ให้ตรวจเข้ม ห้ามมีการค้ามนุษย์ หรือปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์มาบริการในสถานบันเทิงหรือเข้าสถานบันเทิง ไม่ว่าจะรูปแบบไหนให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทันที กับสถานประกอบการนั้นๆ หากพบว่ากระทำผิดกฏหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขออำนาจศาลอาญาพิจารณาหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นชอบอนุมัติหมายจับที่ 1006/2560 ให้จับ น.ส.ปิยะวรรณ หรือ เมย์ สุขมา, หมายจับที่ 1007/2560 ให้จับ น.ส.ปิยะทัสน์ หรือ ฟ้า เทียนสุวรรณ และหมายจับที่ 1008/2560 ให้จับ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยได้ทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่ถึง 18 ปี

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร สารวัตร กองกำกับการ 4 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์/ปคม. ได้เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาที่ถูกนางน้ำเพชร เกยพุฒซา มารดาของนางสาวน้ำขิง เกยพุฒซา แจ้งความว่า มีส่วนร่วมในการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาหญิงบริการให้แก่คนอื่น ซึ่งในการเดินทางมารับที่ ห้องสืบสวนตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ จำนวน 2 คนคือ 1. นางสาวจิระวรรณ หรือ เมย์ สุขมา อยู่บ้านเลขที่ 72/9 ถ.ปางล้อนิคม ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และ 2. นางสาวปิยทัศน์ ภาพเทียนสุวรรณ อยู่บ้านเลขที่ 33/7 หมู่ 3 บ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนโดยนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ ไปที่สนามบินเชียงใหม่และนั่งเครื่องต่อไปเพื่อควบคุมตัวที่กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือ ดาบตำรวจยุทธชัย ทองชาติ อยู่บ้านเลขที่ 269 บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถูกย้ายไปช่วยราชการที่จังหวัดแพร่ ก็ได้ถูกหมายจับด้วยเช่นกันในพอในห้วงบ่ายของวันเดียวกัน ทางตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย พล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยกิจ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ได้ออกหนังสือให้ ดาบตำรวจยุทธชัย ทองชาติ หรือดาบยุทธ ออกจากราชการไว้ก่อน

ก่อนหน้าที่จะถูกควบคุมตัวไปยัง กทม. นางสาวปิยทัศน์ หรือน้องฟ้า เทียนภาพสุวรรณ และนางสาวจิระวรรณ หรือน้องเมย์ สุขมา ผู้ต้องหา ได้เปิดให้สื่อมวลชนซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่นางน้ำเพชร หรือนางเอี้ยง เกยพุฒซา ไปฟ้องร้องต่อ บก.ปคม.ที่กรุงเทพมหานคร โดยรับว่าก่อนหน้านั้นเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเป็นธุระหรือจัดหาเด็กสาว ให้แก่นักเที่ยวกลางคืน แต่ได้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี และจะดำเนินการฟ้องร้องต่อนางน้ำเพชร ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อไปในเร็วๆ นี้ ขณะที่นางเสาวลักษณ์ เทียนภาพสุวรรณ มารดาของน้องฟ้า หรือปิยทัศน์ฯ ได้เปิดแถลงข่าวทั้งน้ำตาว่า บุตรสาวของตนเองไม่ผิดและตนก็มีฐานะยากจน ไม่สามารถหาเงินไปประกันตัวบุตรสาวของตนเองแต่อย่างได โดยระบุต่อไปว่า ครั้งก่อนที่บุตรสาวถูกล่อซื้อค้าประเวณี ตนยังเป็นหนี้ที่ไปจ่ายค่าปรับยังไม่หมด และยังพูดต่อไปว่า น้องน้ำขิง บุตรของนางน้ำเพชร เป็นเพื่อนกับลูกสาวและมีฐานะยากจน มากินข้าวที่บ้านตนบ่อยครั้ง และเป็นเพื่อนสนิทกับบุตรสาว แล้วบุตรสาวของตัวเองจะไป ทำร้ายและบีบบังคับให้น้องน้ำขิง ค้าประเวณีได้อย่างไร

คดีนี้ลามถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.แม่ฮ่องสอน จำนวนหลายคนด้วยกันด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่าเบื้องต้นคดีนี้มีเหยื่อ 3ราย จากการสอบปากคำแม่ 1 ใน 3 ของเหยื่อให้การอ้างว่าบุตรสาวให้ข้อมูลว่าตัวเองกับพวกเคยถูกให้ไปขายบริการกับข้าราชการระดับสูงและชายทั่วไปหลายครั้ง เฉพาะแค่กลุ่มที่เป็นข้าราชการที่จำชื่อได้ประมาณ 3-4 คน จำชื่อไม่ได้แต่จำตำแหน่งหน้าที่การงานได้อีก 6-7 คน รวมแล้ว 10 คนขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีข้าราชการต่างชาติมาซื้อบริการด้วย แต่ข้อมูลที่ได้เป็นเพียงข้อมูลจากแม่ของเหยื่อ จากนี้ชุดสืบสวนจะต้องไปสอบปากคำเด็กสาวที่เป็นเหยื่อในคดีนี้ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมยืนยันว่ากลุ่มข้าราชการที่กล่าวอ้างว่าซื้อประเวณีจากเด็กเหล่านี้มีใครบ้าง โดยต้องมีวัน เวลา สถานที่ระบุได้อย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับผู้ซื้อบริการทางเพศได้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 25 เมษายน 2560 นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้เปิดแถลงข่าวที่ห้องทำงาน บนศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยระบุว่า ตนเองไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กค้าบริการที่ถูก นางน้ำเพชร เกยพุฒซา กล่าวอ้างต่อ ปคม.แต่อย่างใด และขอปฏิเสธว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวล้านเปอร์เซ็นต์ และต่อข้อถามว่าจากการถูกซัดทอด จะดำเนินการฟ้องร้องต่อนางน้ำเพชร หรือไม่ ทาง ผวจ.ระบุว่า ต้องปรึกษานักกฎหมายของตนก่อน ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งในขณะที่กำลังแถลงข่าวนั้น ได้มีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้โทรเข้ามาหาผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ผู้ว่าฯ มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันกันแต่อย่างใด และทำไมนางน้ำเพชร ฯ ต้องไปร้องต่อ ปคม.และโยงเรื่องหลายเรื่องเป็นกรณีเดียวกัน ทั้งที่จากการสอบปากคำเด็กนั้น ไม่ตรงกับที่ถูกซัดทอดแต่อย่างใด

และในวันเดียวกัน ธนากร วงศ์พุฒ รองผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการจากเด็กสาว ตามที่นางน้ำเพชร เกยพุฒซา กล่าวอ้าง โดยระบุว่า ตนพึ่งย้ายมาได้ไม่นานและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่มีการเข้าร้องเรียนต่อ ปคม.แต่อย่างใด