จับมือกองทุนหมู่บ้าน พัฒนาตลาดชุมชน

พาณิชย์จับมือกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พัฒนาตลาดชุมชนเป็นตลาดประชารัฐ ตั้งเป้า 200 ร้านต้นแบบในปีนี้ ก่อนผลักดันเป็น 10,000 ภายใน 3 ปี มั่นใจช่วยให้ชุมชนมีที่ค้าขาย เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม หนุนเศรษฐกิจฐานรากขยายตัว ผนึกโชห่วยลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคลง 20-50%

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะบูรณาการการทำงานร่วมกับนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านการขับเคลื่อนร้านค้าชุมชนที่มีอยู่ 19,000 ร้านค้า ให้เป็นร้านค้าประชารัฐ โดยจะทำการคัดเลือกร้านค้าชุมชนเพื่อนำมาพัฒนาเป็นร้านค้าต้นแบบให้ได้ 200 ร้าน ภายใน 4-5 เดือนนี้ เมื่อร้านเหล่านี้ขับเคลื่อนได้ จะเป็นที่ค้าขายของชุมชน และทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีการขยายตัว

“กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปให้ความรู้ เข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้าชุมชนที่ได้ผ่านการคัดเลือกให้มีความเข้มแข็ง ตั้งเป้าปีนี้ต้องได้ 200 ร้าน ใจจริงอยากจะได้ 500 ร้าน แต่ยังไงขั้นต่ำต้องได้ 200 ร้าน แล้วจะให้ 200 ร้านนี้เป็นต้นแบบให้กับร้านอื่นๆ ที่จะพัฒนาในปีต่อไป โดยจะเพิ่มเป็น 2,000 ร้าน และภายใน 3 ปี จะต้องมีร้านค้าชุมชนที่เข้มแข็งไม่ต่ำกว่า 10,000 ร้าน” นายสนธิรัตน์กล่าว

โดยปีที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติเงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ โดยมีงบลงไปประมาณ 30,000 ล้านบาท และหนึ่งในโครงการขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นก็คือ ร้านค้าชุมชนจำนวน 19,000 แห่ง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่างบประมาณที่รัฐบาลใส่ลงไปไม่สูญหาย

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการพัฒนาร้านค้าชุมชนเป็นร้านค้าประชารัฐ จะทำให้ชุมชนมีสถานที่จำหน่ายสินค้าของชุมชน ซึ่งจะจำหน่ายทั้งสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน สินค้าโอท็อป และสินค้าจากโครงการธงฟ้าประชาชน ที่จะจัดส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคในราคาถูกกว่าท้องตลาดไปให้จำหน่าย ทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีการขับเคลื่อน เกษตรกร ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ร้านค้าชุมชนเป็นสถานที่รวบรวมผลผลิตของชุมชน และกระจายไปยังตลาดกลาง เพื่อนำผลผลิตออกสู่ตลาดนอกพื้นที่ และมีแผนที่จะจัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างตลาดด้วยกัน เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย เพราะสินค้าในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน

ด้าน น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ค้าส่งรวมใจ โชห่วยไทยคู่สังคม” กระทรวงพาณิชย์ได้ให้กรมร่วมมือกับสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และร้านค้าส่ง-ปลีกท้องถิ่นที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมลดราคาสินค้า ภายใต้ชื่องาน “ค้าส่งรวมใจ โชห่วยไทยคู่สังคม” เพื่อช่วยลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินในกระเป๋าให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในส่วนภูมิภาค

การจัดงานครั้งนี้ จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.2560 มีเครือข่ายร้านโชห่วยกว่า 3,000 ร้านค้าทั่วประเทศ เข้าร่วมจัดงานฯ โดยจะมีการลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค 20-50% คาดว่าหลังเสร็จสิ้นการจัดงานฯ จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจกว่า 500 ล้านบาท และลดภาระค่าครองชีพได้ไม่ต่ำกว่า 50-100 ล้านบาท.

ร่วมแสดงความคิดเห็น