เปิดเวทีสร้างความเข้าใจ พัฒนาคุ้มครองผู้บริโภค

ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ภายใต้มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา เปิดเวทีเพื่อแสวงหาความร่วมมือกับเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น ในการสร้างความเข้าใจและพัฒนาแนวทางในการคุ้มครองผู้บริโภค
ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ภายใต้มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา ได้จัดเวทีร่วมกับเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น ในการเรียนรู้ข้อมูลและสถานการณ์เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในจังหวัดพะเยา โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ในพื้นที่เข้าร่วมเวทีดังกล่าว
นางสาวพวงทอง ว่องไว ผู้ประสานงานศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดพะเยา อยู่ภายใต้มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา เริ่มดำเนินงานในปี 2550 ทำหน้าที่รณรงค์สร้างความรับรู้ความเข้าใจในสิทธิผู้บริโภคและรับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิในทุกด้าน เช่น บริการสาธารณสุข สินค้าและบริการ โทรคมนาคม อาหารและยา พัฒนาฐานระบบข้อมูลและการจัดการความรู้ เพื่อนำไปสู่การผลักดันเชิงนโยบาย ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.เรื่องอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะร้องเรียนในเรื่องของปัญหาอาหารหมดอายุแล้วยังนำมาจำหน่ายในห้างร้าน รวมไปถึงวันที่ผลิตวันหมดอายุไม่ชัดเจน ฉลากกำกับไม่เป็นภาษาไทย
รองลงมา คือ เรื่องมาตรฐานการรักษาระบบการส่งต่อการใช้สิทธิในกองทุนฉุกเฉินที่ยังคงเป็นปัญหาจากความเข้าใจและการตีความที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ และ 3.เรื่องด้านสื่อและโทรคมนาคม ซึ่งพบว่ามีลักษณะของการได้รับซิมฟรีแล้วถูกเรียกเก็บเงินภายหลัง ทั้งที่ไม่ได้เปิดใช้บริการรวมไปถึงปัญหาวันหมดแต่เงินไม่หมดและไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ รวมถึงการจัดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชุมชนแต่ไม่มีการแจ้งหรือทำประชาคมในพื้นที่
ทั้งนี้จะพบว่าทุกของผู้บริโภคที่มีอย่างต่อเนื่องสารพัดรูปแบบ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอาจไม่สามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้บริโภคจะต้องมีข้อมูลให้เท่าทันสถานการณ์เพื่อใช้รับมือรวมทั้งเป็นเกราะป้องกันตัวจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ นอกจากนี้การปรับปรุงพัฒนากฎหมายที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาผู้บริโภคในปัจจุบัน อีกทั้งยังต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างจริงจังให้เกิดประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้จึงมีการเปิดเวทีสภาผู้บริโภคจังหวัดพะเยาขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคและประชาชนมีส่วนร่วมเสนอแนะแนวทาง รวมถึงจัดให้มีการเลือกตั้งเครือข่ายสภาผู้บริโภคเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น