รองพ่อเมืองลำพูน ควงทหาร สาธารณสุข บุกตรวจค้นแหล่งผลิตน้ำผึ้งปลอมพื้นที่ลำพูน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. 60 นายมนัส อ่ำทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พ.อ.พงษ์มิตร ปินปันคง เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ลำพูน พร้อมด้วย ร.ท.นันท์พิพัชญ์ คำวงค์ปิน รอง ผบ.ร้อย รส.2 ร.7 พัน 1 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ สคบ.และเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดลำพูน เข้าทำการตรวจค้น แหล่งผลิตน้ำผึ้งปลอม ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้บุกจับมาแล้วครั้งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งการบุกเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายเข้าตรวจสอบด้วยกัน 3 จุด

จุดแรกเข้าทำการตรวจค้นบ้าน นางนารีรัตน์ ศรีสุข อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 5 ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จากการตรวจค้น ไม่พบมีใครอยู่ในบ้าน พบเพียง ลังเปล่า และอุปกรณ์ในการผลิตน้ำผึ้งปลอม รวมทั้งลำโพงที่เลี้ยงผึ้งบางส่วน ส่วนเจ้าของบ้านคาดว่าคงจะทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบจึงไม่อยู่บ้าน

ขณะที่อีกจุดใกล้เคียงกันก็พบว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ได้ไหวตัวทันเก็บอุปกรณ์ เกี่ยวกับการผลิตน้ำผึ้งปลอมซ่อน และไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด นอกจากนี้ จุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านของนายธีระศักดิ์ เชื้อจินดา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ตรวจสอบพบอุปกรณ์การผลิตน้ำผึ้งปลอม รวมทั้งน้ำผึ้งปลอมนับ 100 ขวด น้ำตาลทรายขาว ที่ใช้ในการผสมกับ แบะแซ และน้ำผึ้งแท้จำนวนหนึ่ง

สอบสวนนายธีระศักดิ์ ให้การว่า ตนเองไม่ทราบว่าการผลิตน้ำผึ้งผสม ซึ่งมีน้ำผึ้งแท้ 50 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับแบะแซ และน้ำตาลทรายขาวอีก 50 เปอร์เซ็นต์บรรจุขวดแล้วนำไปส่งขายนั้นผิดกฎหมาย เพราะเคยทำมานานแล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีคนมารับซื้อไปวางขายตามพื้นที่ต่าง ๆ ของ เชียงใหม่ ซึ่งตนจะส่งขายในราคาส่ง ตกขวดละ 60 บาท อย่างไรก็ตาม ต้องขอความเป็นธรรมด้วยเพราะตนนั้นทำโดยไม่ทราบกฎหมาย ว่าผิด แต่ตนก็บอกไปว่าน้ำผึ้งผสม เพียงแต่ไม่ได้ติดฉลากข้างขวดเท่านั้น  ทางด้าน เภสัชกร จิระ วิภาสวงศ์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญสาธารณะสุขจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ผู้ผลิตน้ำผึ้งปลอมปนจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 2 ข้อหาด้วยกัน ข้อหาที่ 1 กระทำความผิดในการ ปลอมปนอาหาร คือ มีเจตนานำน้ำผึ้ง แท้ผสมกับแบะแซ น้ำตาลทราย เพื่อให้ดูว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ซื้อก็คงจะคิดว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ จึงซื้อไปบริโภค แม้จะไม่มีอันตรายมากนักแต่ก็เป็นการปลอมขึ้นมา จึงมีความผิด ข้อหาที่ 2 การผลิตน้ำผึ้ง ต้องขออนุญาต มีฉลากบอกชัดเจนว่า เป็นน้ำผึ้งแท้ หรือผสม เพื่อให้ผู้ซื้อนั้นเข้าใจ และที่สำคัญจะต้องได้รับอนุญาตและเครื่องหมาย อย. ด้วย ซึ่งรายนี้ไม่มีเลย จึงจะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะออก หมายเรียกไปพบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น