ลำพูนวิกฤติแล้ว หลังตรวจพบหมอกควันเกินค่ามาตรฐานวันแรก

ลำพูนสาหัส วิกฤติแล้ว หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กปกคลุมเมืองวิฤติเป็นแรก โดยค่าเกินมาตรฐาน 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เตือนห้ามทำกิจกรรมทุกชนิดกลางแจ้งเนื่องจากกระทบต่อสุขภาพ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2561 สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดลำพูนวันนี้รุนแรงโดยพบว่าตามตัวเมืองมีกลุ่มหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กปกคลุมไปทั่วเมือง และมีผลกระทบกับชาวลำพูนโดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถ จักรยานยนต์ เริ่มมีอาการแสบตากันแล้วเนื่องจากฝุ่นละอองและหมอกควันที่วิกฤติเป็นวันแรก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะะรุนแรงขึ้นเรื่อย

ขณะที่ปัญหาหมอกควันไฟป่า ยังคงมีการลักลอบเผาป่ากันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพบจุดความร้อนขึ้นในหลายอำเภอของ จังหวัดลำพูน ล่าสุด มีรายงานเกิดไฟป่าในพื้นที่ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ หน่วยส่งเสริมแม่ทานำกำลังหน่วยดับไฟป่าเข้าทำการดับไฟบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลี้ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ขณะที่ เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า อ.บ้านธิ จ.ลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จิตอาสา ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบ้านธิ ร่วมด้วยช่วยกันดับไฟป่าที่บ้านห้วยส้าน บ้านดอยเวียง ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งไฟป่ากำลังลุกไหม้อย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟได้สำเร็จ ทำให้พื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นมา ในพื้นที่ จ.ลำพูน พบจุดเกิดความร้อนอย่างน้อย 8 จุด

ทางด้าน สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 จ.ลำพูน รายงานว่า สภาพอากาศของจังหวัดลำพูนวันนี้วิกฤติแล้วเนื่องจากพบปริมาณหมอกควันพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานเป็นวันแรก ซึ่งวัดได้ 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งปกติคุณภาพอากาศจะไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นับได้ว่าอากาศอยู่ในขั้นวิกฤติ มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นครั้งแรกของปีนี้

อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนที่จะออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นละอองและหมอกควันพิษดังกล่าว และคาดการณ์เอาไว้ว่าวันที่ 8 – 10 มีนาคม 2561 สถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด

ร่วมแสดงความคิดเห็น