“เอพริลฟูล เดย์”…เมษาหน้าโง่

“เอพริลฟูล เดย์”…เมษาหน้าโง่

หลายคนอาจจะเคยพลาดพลั้ง เสียท่า โดนเพื่อนฝูงหรือคนใกล้ตัวแกล้งอำ หรือโกหกเรื่องราวอันเหลือเชื่อ เมื่อมาถึงวันที่1 เมษายน ที่ฝรั่งเขาถือว่าเป็นวัน April Fool’s Day หรือ วันโกหกโลก
แต่สำหรับชาวฝรั่ง วันที่ 1 เมษายน กลับเป็นวันที่พวกเขาเรียกกันว่า “April Fool’s Day” ซึ่งก็คือ วันแห่งการโกหก หรือเรียกอีกชื่อว่า วันเมษาหน้าโง่ เป็นวันที่ทุกคนสามารถแกล้งกันสนุกสนานด้วยการโกหก โดยไม่ถือโทษโกรธกัน ดังนั้น อาจจะมีการปล่อยข่าว (ลือ) ต่าง ๆ นานา ก่อนจะมาเฉลยทีหลังว่า เป็นเรื่องไม่จริงแต่อย่างใด อาทิเช่น การปล่อยข่าวลือดาราดังเสียชีวิต เป็นต้น
อยากรู้มั้ยครับว่า เรื่องราวจุดกำเนิดของวันนี้ มาจากไหน และเพราะอะไร คนตะวันตกเขาถึงยกให้เป็นวันโกหก โดยไม่ผิดกฏหมายและห้ามโกรธ ห้ามเคือง เมื่อถูกอำ ถูกหลอก
มีตำนานเล่ากันมาว่า สมัยก่อน พวกฝรั่งเขาก็มีวันขึ้นปีใหม่ใกล้ ๆ บ้านเรานี่แหละครับ คือเดือนเมษายน อยู่มาวันหนึ่งทางการก็เกิดอยากจะมีการเปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันใหม่ โดยยกมือเห็นพ้องกันว่า เปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม แทนซะยังงั้น
ทีนี้มันก็เป็นเรื่องสิครับ เพราะสมัยโบราณ มันไม่อินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์ เหมือนตอนนี้ พอประกาศเปลี่ยนแปลงปุ๊บ มันก้อมีคนที่รู้บ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างเป็นธรรมดา เพราะติดต่อกันยาก ต้องขี่ม้า ขึ้นเขา ลงห้วย กว่าจะเจอหน้ากัน
โบราณเขาว่าไว้”ไม่รู้คือไม่ผิด” แฮ่มมม… บรรดาคนที่ยังไม่รู้เรื่องทั้งหลาย ก็ยังคงธรรมเนียมเดิมส่ง ส.ค.ส. ให้กันในวันที่ 1 เมษายน เพราะยังไม่รู้ว่าชาวบ้าน ชาวช่องเขาเปลี่ยนไปฉลองวันปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม กันหมดแล้ว
บรรดานักกระแนะกระเหน ทั้งหลายได้ทีก็เลยพร้อมใจ เรียกบรรดาคน”ตกข่าว”ทั้งหลายเหล่านี้ว่าเป็นพวก “เมษาหน้าโง่” แล้วก็มีการแกล้งกันโดยไม่บอกความจริงเพื่อความสนุกสนาน
จนกลายเป็นเทศกาลที่รู้จักและเล่นกันในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สกอตแลนด์ อิตาลี สเปน โปรตุเกส สวีเดน เยอรมนี นอร์เวย์ ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยแต่ละประเทศอาจมีวันโกหกไม่ตรงกับวันที่ 1 เมษายน เสมอไป
แต่ก็มีคนเล่าขาน ว่าที่ไป ที่มาของวันนี้ มันมีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับความเป็นมาของวันโกหก April Fool’s Day
บ้างก็ระบุว่า เริ่มจากพวกโรมันโบราณ มีเทศกาลที่เรียกว่า “Cerealia” จัดในช่วงต้นเดือนเมษายน เรื่องเล่านี้มีว่า เทพเจ้าชื่อ Ceres ทรงได้ยินเสียงสะท้อนของพระธิดา Proserpina ตะโกนมาว่า เธอถูกจับตัวไปอยู่ใต้ผืนดินโดยเทพพลูโต Ceres จึงตามเสียงลูกสาวไป และได้พบความจริงที่ว่า การตามเสียงสะท้อนเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย เหมือนว่าพระองค์ทรงถูกหลอกนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีอีกทฤษฎีที่เชื่อว่า วันโกหก April Fool’s Day เกิดจากช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หนุ่มสาวจะออกตามหาความรัก และเป็นช่วงที่พืชเจริญเติบโต ในขณะที่สัตว์ต่าง ๆ ก็หาคู่ด้วย กลุ่มนักบวชจึงพยายามหลอกล่อวิญญาณของความชั่วร้ายอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้มาขัดขวางความรักของทั้งหนุ่มสาว พืช และสัตว์ ดังนั้น จึงเป็นเดือนที่นักบวชจะต้องสวดเพื่อหลอกเหล่าวิญญาณร้ายนั่นเอง
ส่วนกรรมวิธีการเล่นในวัน April Fool’s Day คือ…
วันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวัน April’s Fool Day เป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันด้วยการแต่งเรื่องอะไรก็ได้มาหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเลือดตกยางออก และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน
ถ้าวันนี้ ใครพลาดท่า เสียที โดนเพื่อนอำ หรือโดนข่าวลวง หลอกโน่น หลอกนี่ ต้องทำใจนิ่งๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ อย่าถือโทษโกรธเคืองกัน
ท่องเอาไว้ในใจ”เพราะเขารักเราดอก จึงหยอกเล่น…..”

ร่วมแสดงความคิดเห็น