ไทยร่วมแก้ไขปัญหา เพลิงไหม้บ่อขยะกรุงย่างกุ้ง เพลิงดับกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีทางการเมียนมาขอความช่วยเหลือทางการไทย ต่อกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่ฝังกลบขยะในเขตไหล่ ตะยา กรุงย่างกุ้ง คพ.ได้ส่ง จนท.ร่วมกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากรัฐบาลไทย ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง ผู้แทนกองทัพอากาศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ฝึกอบรมเอ็นพีซี ปตท. ร่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือ พบว่าสภาพพื้นที่เป็นบ่อขยะ เปิดใช้งานมานานกว่า 17 ปี มีขนาดพื้นที่กว่า 700 ไร่ เกิดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด และมีควันไฟปกคลุม ไม่มีเปลวเพลิง อาจลุกลามไปได้เนื่องจากมีก๊าซมีเทนอยู่ใต้กองขยะ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมานางสุณี กล่าวว่า ทีมงานผู้เชี่ยวชาญฯ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การดับเพลิงบ่อขยะในประเทศไทย และให้ข้อเสนอแนะเทคนิคในการดับเพลิง แนวทางและแผนงานในการดับเพลิง ที่ยังคุอยู่ในชั้นใต้ดิน และการสนับสนุนแหล่งน้ำในการดับเพลิง ซึ่งสอดคล้องกับแผนการดับเพลิง และแนวทางที่ทางกรุงย่างกุ้งกำลังดำเนินการอยู่ เช่น การใช้เครื่องจักรในการขุดคลอง เพื่อส่งน้ำมายังบ่อขยะเพื่อใช้สูบมาดับเพลิง การแบ่งโซนพื้นที่เพื่อดับเพลิงเป็นส่วนๆ การจัดชุดดับเพลิงพร้อมเครื่องจักร เพื่อสนับสนุนในการดับเพลิงตลอด 24 ชม. และจัดชุดเฝ้าระวังป้องกันเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก โดยปัจจุบันทางการเมียนมามีการใช้รถดับเพลิงจำนวนมากกว่า 100 คัน และ จนท.ประมาณ 900 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการดับเพลิงนางสุณี กล่าว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญไทย ซึ่งมี พล.ต.สุชาติ สุทธิพล ผอ.สนง.สนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย เป็นหัวหน้าคณะ เข้าร่วมการประชุมกับทางการเมียนมา (เมื่อวันที่ 30 เม.ย) ในบริเวณพื้นที่บ่อขยะของกรุงย่างกุ้ง ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ของประเทศเมียนมา โดยเลขานุการคณะกรรมการพัฒนากรุงย่างกุ้ง เป็นประธานในการประชุมฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดับเพลิงไหม้บ่อขยะของกรุงย่างกุ้ง และนักวิชาการ คพ.ได้ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนากรุงย่างกุ้ง กรมควบคุมมลพิษและรักษาความสะอาด ประเทศเมียนมา
เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่บ่อขยะ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศในชุมชนหนาแน่นที่ใกล้ที่สุด ด้านท้ายลมทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ่อขยะ ที่มีระยะห่างประมาณ 2 กม. และได้แจ้งผลการตรวจวัดดังกล่าว ให้ จนท.เมียนมาได้รับทราบ พร้อมเสนอแนะให้กำกับดูแลการสวมใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีของ จนท.ดับเพลิงทุกคนที่จะเข้าไปดับเพลิง และจากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ สามารถดับเพลิงได้แล้วทั้งหมด ถือว่าการปฏิบัติการของทีมดับเพลิงของเมียนมา ดำเนินการดับเพลิงได้ตามแผนฯ และยับยั้งการลุกลามของเพลิงที่ค่อนข้างเหมาะสม จนทำให้สถานการณ์เพลิงไหม้ และคุณภาพอากาศในพื้นที่ชุมชนโดยรอบบ่อขยะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น