เริ่มเข้มข้นกันแล้ว สำหรับศึกลูกหนังโลกที่รัสเซีย หลายทีมต่างพากันพยายามหนีตาย เพื่อลุ้นเข้ารอบ 2 นักเตะ ตราไก่ ลอยลำเข้ารอบเป็นทีมที่ 3 แล้ว ตาม รัสเซีย อุรุกวัย ที่เข้ารอบไปแล้ว นักเตะแดนจิงโจ้ ได้เทคนิคสมัยใหม่ วีเออาร์ มาช่วยให้เจ๊าโคนม มีลุ้นเข้ารอบทั้ง 2 ทีม ตามด้วยคู่สุดท้าย เมสซี่ ช่วย ฟ้าขาวไม่ได้ พ่าย โครเอเซีย ยับเยิน อาการโคม่าในการเข้ารอบ
นักเตะแดนน้ำหอม ตราไก่ ได้ เอ็มบัปเป ซัลโวช่วยตราไก่ เฉือนหวิวเปรู คว้าตั๋วลิ่ว 16 ทีม “เอ็มบัปเป” ซัดประตูโทนช่วย “ตราไก่” เฉือนหวิว “เปรู” ชนะ 2 นัดรวด คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุด ท้ายเรียบร้อย เมื่อคืน 21 มิ.ย.61 เวลา 23.49 น.
ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก นัด 2 กลุ่ม C เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่สนามเซ็นทรัล สเตเดี้ยม เมืองเยคาเตรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระหว่าง “ตราไก่” ฝรั่งเศส ตัวแทนจากยุโรป วัดฝีเท้ากับ “เดอะ อินคา” เปรู ตัวแทนจากอเมริกาใต้ ปรากฏว่า ฝรั่งเศส เฉือนคว้าชัยเหนือ เปรู ไปได้อย่างหวุดหวิดที่สุด 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก คิลิยัน เอ็มบัปเป กองหน้าดาวโรจน์ วัย 19 ปี 6 เดือน ในนาที 34 ทำให้ เอ็มบัปเป สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดของ “ตราไก่” ที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์รายการเมเจอร์ (เวิลด์ คัพ+ยู)
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ ฝรั่งเศส คว้าชัย 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย
เป็นทีมที่ 3 ต่อจากเจ้าภาพ รัสเซีย และ อุรุกวัย ส่วน เปรู แพ้ 2 นัดรวด ไม่มีแต้ม ตกรอบเป็นทีมที่ 4
ต่อจาก โมร็อกโก, อียิปต์ และ ซาอุดีอาระเบีย
สรุปคะแนนของกลุ่ม C หลังเตะผ่านไป 2 นัด
1.ฝรั่งเศส 6 คะแนน
2. เดนมาร์ก 4 คะแนน
3. ออสเตรเลีย 1 คะแนน
4. เปรู ไม่มีคะแนน
สำหรับเกม
นัดสุดท้าย ฝรั่งเศส จะพบกับ เดนมาร์ก หากเสมอกันจะจูงมือเข้ารอบ ส่วน เปรู พบกับ ออสเตรเลีย ซึ่ง
ทาง “จิงโจ้” ต้องเอาชนะให้ได้ แล้วไปลุ้นให้ เดนมาร์ก แพ้ ฝรั่งเศส โดยทั้ง 2 นัดเตะวันที่ 26 มิ.ย. นี้
ฟุตบอลโลกนำการตัดสินทันสมัย ล่าสุดมาใช้ วีเออาร์ช่วยจิงโจ้ได้จุดโทษไล่ตีเจ๊าโคนม วีเออาร์ช่วย “จิงโจ้” ได้จุดโทษไล่ตีเจ๊าแบ่งแต้ม “โคนม” ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก นัด 2 กลุ่ม C เมื่อคืน 21 มิ.ย.61 เวลา 20.44 น.
ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก นัด 2 กลุ่ม C เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่สนามซามารา อารีนา เมืองซามารา ประเทศรัสเซีย ระหว่าง “โคนม” เดนมาร์ก ดวลแข้งกับ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ผลการแข่งขันปรากฏว่า เสมอกันไป 1-1 โดย เดนมาร์ก ได้ประตูขึ้นนำเร็ว 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของ คริสเตียน อีริค เซน ตั้งแต่ช่วงต้นเกมนาทีที่ 7
ส่วน ออสเตรเลีย ได้วีเออาร์ช่วยตัดสิน จึงได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 ไมค์ เยดินัค รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
ในนาที 38 ทำให้ เยดินัค เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิง 3 ประตู จาก 3 จุดโทษในเวิลด์ คัพ
รอบสุดท้าย จบเกมเจ๊ากัน 1-1 ต้องแบ่งแต้มกันไป โดย เดนมาร์ก เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน จาก 2 นัด
ส่วน ออสเตรเลีย มี 1 คะแนน จาก 2 นัด ต้องไปลุ้นเข้ารอบกันต่อในนัดสุดท้าย ซึ่ง เดนมาร์ก จะพบกับ
ฝรั่งเศส ส่วน ออสเตรเลีย พบกับ เปรู ทั้ง 2 นัดเตะวันที่ 26 มิ.ย. นี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น