ยันล้งจีนสุมหัว กดราคาซื้อลำไย ชาวสวนจวกรัฐฯ ไม่ทันเกมส์ล้ง

นางจำเนียร แสนราชา เกษตร จ.ลำพูน กล่าวว่าผลผลิตลำไย ลำพูน ฤดูกาลนี้จะมีราวๆ 251, 000 กว่าตัน มากกว่าปี ก่อน 22,000 กว่าตัน เป็นลำไยในฤดู 125,100 กว่าตัน และนอกฤดู 125,900 กว่าตัน จะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือนนี้ถึง ต้นเดือน ส.ค.61ทางด้าน นายสำเริง ไชยเสน รอง ผวจ.ลำพูน กล่าวว่า งานเทศกาลลำไย ประจำปี 61 เพื่อส่งเสริมเพิ่มช่องทางจำหน่ายลำไยคุณภาพ และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวลำพูน กำหนดจัด 25 – 31 ส.ค.61 ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานท่านาง ไปตามถนนหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย ในงานจะมีการจำหน่าย ลำไยสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลำไย

ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย อ.เวียงหนองล่อง,อ.ป่าซาง กล่าวว่า ราคาลำไยที่เปิดในแต่ละวันช่วงนี้ เกรดเอเอ.เฉลี่ย 15-17 บาท เกรด เอ.9-14 บาท และมัดช่อเกรด เอเอ.เฉลี่ย 25-28 บาท ถ้าราคาในเกณฑ์นี้ก็ไม่มีปัญ หา จะไปต่อรองล้งให้รับซื้อมากกว่าต้นทุนผลิต 17-18 บาท คงไม่มีล้งไหนรับซื้อ ชาวสวนต้องลดต้นทุนผลิตให้มากที่สุด นำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชแซมในสวน ทั้งขิง ข่า ตะไคร้ ปัญหาที่ต้องเผชิญทุกฤดูกาล คือราคาลำไยที่บิด เบือนมาตลอด

ถ้าราคาไม่มี ทำไมล้งแต่ละแห่งจึงขยายกิจการ ใหญ่โตอย่างต่อเนื่อง แค่แถว ถ.เชียงใหม่-จอมทอง หรือ สายแยกโรงบ่ม มาแยกสะปุ๋ง โรงงานจีนทั้งนั้น ทำกันครบวงจร ทั้งส่งออกผลสด ,อบแห้ง แปรรูปผลผลิต ดังนั้นหน่วยงานรัฐฯต้องทันเกมส์ ไม่เป็นลูกไล่ผู้ค้าต่างถิ่นกลุ่มนี้ ที่คุมกลไกตลาด จนทำให้ชาวสวนหรือภาครัฐฯ ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลยจากการสอบถาม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเหมืองจี้ ลำพูน ซึ่งแปรรูปลำไยสีทอง ยืนยันว่า แนวทางการเกษตรแปลงใหญ่รวมกลุ่มกัน พัฒนาผลผลิตให้มีความหลากหลาย ไม่ใช่มุ่งขายเฉพาะผลสด จะทำให้อยู่รอดได้ พอมีกำไรจากการทำสวนลำไย ซึ่งผู้นำชุมชน และท้องถิ่นในพื้นที่ต้องเป็นแกนสนับสนุน เนื่องจากการเริ่มต้น อาจต้องมีการลงทุนในกระ บวนการผลิต รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวสวนว่า ถ้าของดี มีคุณภาพจริง ตลาดเปิดรับเสมอ รับคำสั่งซื้อแทบผลิตไม่ทันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเครือข่ายชาวสวนลำไยใน อ.ป่าซาง กล่าวว่า ปกติทำสวนลำไย ทำการเกษตร ซึ่งปีนี้จะเน้นเก็บลำไยแบบช่อ หรือคัดเกรดลงตะกร้าขาวคุ้มกว่า และข้อแนะนำที่เครือข่ายชาวสวน เกษตรกรผู้ปลูกลำไยแหล่งต่างๆระบุต่อสื่อนั้น เป็นทฤษฎีน่าจะเป็น ในหลักปฏิบัติแล้ว ถ้ายังคุมล้งจีนให้รับเงื่อนไขการตลาดแบบไม่เอารัดเอาเปรียบมากเกินไป ไม่สุมหัวกดราคารับซื้อลำไยไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปคำนึงถึงแผนหรือเป้าหมายอื่นๆ

ลองคิดดูถ้าราคาลำไยลดลงทุกๆปี ชาวสวนก็ก้มหน้าทำกัน พอถึงฤดูก็ไปขายตามล้ง ซึ่งส่วนใหญ่มาปักหลักสร้างโรงงานใหญ่โตในพื้นที่ ถ้ารัฐฯ มามีส่วนร่วมในกลไกบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจริงๆ พวกล้งกลุ่มนี้อยู่ไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงยิ่งทุ่มงบช่วย พวกนี้ยิ่งได้ประโยชน์ ในขณะที่ภาครัฐฯ ต้องมาแบกรับด้านงบช่วยเกษตรกรตลอดสำหรับแผนบริหารจัดการผลผลิตลำไยในฤดู จ.ลำพูน ประจำปี 2561 คาดว่าลำไยในฤดูจะออกสู่ตลาด125,100 ตัน แบ่งเป็นบริโภคสดประมาณ 35,000 ตัน บริโภคสดภายในประเทศ 11,000 ตัน ลำไยสดส่งออก 23,000 ตัน แปรรูปปริมาณ 9 หมื่นตัน แยกเป็นอบลำไยอบแห้งทั้งเปลือก 75,000 ตัน อบแห้งลำไยเนื้อสีทอง 12,000 ตัน ที่เหลือนำไปแปรรูปอื่นๆ เช่น ลำไยกระป๋อง หรือ แช่แข็ง 2,500 ตัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น