คนกรุงนิยมเที่ยวปลายปี เลือกมาเชียงใหม่อันดับ 1

b-4
ผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณร้อยละ 66.0 มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ อย่างน้อย 1 ทริป ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว/เพื่อน โดยปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 คือ เชียงใหม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ในลักษณะการสำรวจเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม-18 พฤศจิกายน 2559 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯ จำนวน 982 คน ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพหลัก ช่วงอายุ และระดับรายได้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงสาระสำคัญที่อาจเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ดังต่อไปนี้
กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวในประเทศอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ ร้อยละ 55.4 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ (ร้อยละ 10.6) ดังนั้น กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวในประเทศทั้งหมด (ร้อยละ 66.0) ซึ่งลดลงไปบ้างจากการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์หลัก คือ เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงหยุดยาวกับครอบครัว/กลุ่มเพื่อน (คิดเป็นร้อยละ 82.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ) อีกส่วน คือ กลุ่มที่มีแผนแวะท่องเที่ยวระหว่างทางกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติ (คิดเป็นร้อยละ 15.0 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ) ขณะที่ ที่เหลือเป็นกลุ่มที่เดินทางไปอบรมสัมมนาในต่างจังหวัด
ขณะที่ กลุ่มที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอย่างเดียว (ร้อยละ 12.6) ส่วนใหญ่เลือก เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย สำหรับปลายทางยอดนิยม เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ไม่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ (ร้อยละ 21.4) โดยกลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้ ที่ไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในระยะนี้นั้น ด้วยมีหลากหลายเหตุผล เช่น บางรายไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวเพราะอยากจะลดค่าใช้จ่ายในกิจกรรมที่ไม่จำเป็น บางรายยังไม่ได้ตัดสินใจแต่อาจเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้านาน ส่วนบางรายได้เดินทางไปท่องเที่ยวแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นต้น
ผลการสำรวจ พบว่า “เชียงใหม่” เป็นปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รองลงมา คือ เชียงราย เลย กระบี่ และชลบุรี ทั้งนี้ ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ปลายทางท่องเที่ยวที่คนกรุงเทพฯ มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ไม่ต่างจากผลการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก
โดยกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีแผนทำระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันดับ 1 คือ เที่ยวชมความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างภูเขา น้ำตก ทะเล รองลงมา คือ การทำบุญไหว้พระ และการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจากร้านที่มีชื่อเสียง ตามลำดับ
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ส่วนใหญ่มีแผนจะเดินทางไปกับครอบครัว/เพื่อน โดยมีแผนเดินทางท่องเที่ยวจำนวน 1 ทริป คิดเป็นร้อยละ 75.3 และอีกส่วน คือ กลุ่มที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ 2 ทริปขึ้นไป
นอกจากนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559 แตกต่างจากปีที่แล้ว โดยโปรโมชั่นของธุรกิจโรงแรม/ธุรกิจสายการบินเป็นปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญมากเป็นอันดับ 1 (เทียบกับการชักชวนของสมาชิกในครอบครัวที่เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจวางแผนท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว) รองลงมา ได้แก่ วันหยุดยาว/ความพร้อมด้านเวลา และโปรโมชั่นในงานท่องเที่ยว รวมถึงอิทธิพลจากสื่อต่างๆ เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น
การสำรวจครั้งนี้ ยังสะท้อนพฤติกรรมเกี่ยวกับการสำรองที่พัก พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยมากเลือกที่พักประเภทรีสอร์ทมากเป็นอันดับ 1 รองลงมา ได้แก่ โรงแรม และโฮมสเตย์ รวมถึงบ้านญาติ/เพื่อน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ส่วนใหญ่มีผู้ร่วมเดินทางอยู่ที่ประมาณ 2-5 คนต่อทริป โดยกลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะสำรองที่พักโดยตรงกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจและการจัดรายการส่งเสริมการขายในงานท่องเที่ยว ขณะที่ อีกส่วนเลือกสำรองที่พักผ่านออนไลน์แทรเวลเอเจนซี่ (Online Travel Agency: OTA) อย่าง Agoda.com Booking.com และ Expedia.com เป็นต้น ผลการสำรวจครั้งนี้ ช่วยสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันในตลาดที่ภาคธุรกิจได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย อย่างธุรกิจสายการบินเพิ่มความถี่ในการนำเสนอโปรโมชั่นด้านราคาเพื่อกระตุ้นตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการจองสินค้าท่องเที่ยวแบบนาทีสุดท้าย หรือ Last Minute Booking
การสำรวจครั้งนี้สะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มตัวอย่าง โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณ ร้อยละ 64.7 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดด้วยเงินสด รองลงมา คือ ใช้จ่ายด้วยเงินสดและบัตรเครดิตในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมีการใช้จ่ายส่วนใหญ่สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อคนต่อทริป รองลงมา คือ ค่าใช้จ่ายที่พัก ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคนต่อทริป และค่าใช้จ่ายสำหรับของฝากของที่ระลึก ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคนต่อทริป
จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้จ่ายด้วยเงินสดระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากร้านค้าที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นที่อาจสะดวกรับเป็นเงินสดมากกว่า แต่บางรายมีความพร้อม สามารถบริหารจัดการเรื่องต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น ก็ยินดีให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
จากผลการสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มีแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่ธุรกิจบริการในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 คนกรุงเทพฯ จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เดินทางไปพักผ่อนทั้งแบบเช้าไป-เย็นกลับ และกลุ่มที่พักค้างคืน รวมถึงกลุ่มที่แวะเที่ยวระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติในต่างจังหวัด จำนวนคนกรุงเทพฯ อาจเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2558 และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ต่างๆ มูลค่าประมาณ 44,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แรงหนุนส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาครัฐที่มุ่งหวังกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ โดยเม็ดเงินดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 19.5 ของรายได้ท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้มีมูลค่าประมาณ 2.26 แสนล้านบาท สำหรับเม็ดเงินการใช้จ่ายนั้น มีการขยายตัวใกล้เคียงกับประมาณการในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่คนที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าผลการสำรวจนี้ จากอานิสงส์ของมาตรการภาครัฐ และการจัดโปรโมชั่นที่สอดรับกับมาตรการท่ามกลางการแข่งขันกันรุนแรงของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันผู้คนมีการปรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อม/ข้อจำกัดของแต่ละบุคคล/ครัวเรือน
ผลการสำรวจครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญ และนำไปสู่การปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะการดึงดูดกลุ่มที่ยังไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวและอาจเดินทางท่องเที่ยวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น