ตำนาน “หลวงพ่อฤา” วัดเหมืองค่า

ห่างจากตัวจังหวัดแพร่ไปประมาณ 2 กม. ทางทิศตะวันออก ที่บ้านหมู่ที่ 6 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จะพบกับวัดที่มีความเก่าแก่ของบ้านเหมืองค่า และมีตำนานเล่าขานที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับอภินิหารของวัดเหมืองค่าจนเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านทั่วไปวัดเหมืองค่าเดิมมีชื่อว่า “วัดสงัดดงเย็น”สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นประมาณ พ.ศ. 2180 วัดเหมืองค่ามีโบราณวัตถุและโบราณสถานที่สร้างความเคารพสักการะแก่ชาวบ้านสิ่งแรกคือ พระธาตุเหมืองค่าเป็นพระธาตุที่เก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใดชาวบ้านเหมืองค่าถือว่าพระธาตุนี้เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ในยามวิกาลของวันพระ ชาวบ้านมักจะเห็นดวงแก้วสีเขียวออกจากพระธาตุแล้วลอยไปทางทิศตะวันตก เรื่องนี้นายจรัญ เหมาะดี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงตนเคยเห็นอยู่เสมอตอนที่บวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดเหมืองค่าพระธาตุวัดเหมืองค่าได้รับการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2534 แต่คงรูปลักษณ์แบบเก่าทุกประการ ขณะนี้ชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาจากกรุงเทพมหานคร ประสงค์จะซ่อมแซมยอดพระธาตุใหม่เพื่อบรรจุทองคำที่ยอดพระธาตุ
แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากงบประมาณยังไม่เพียงพอพระอุโบสถวัดเหมืองค่า เป็นพระอุโบสถเก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2180 กว้าง 2 วา 1 ศอก ยาว 3 วา 2 ศอก ชาวบ้านจึงเรียกว่า “โบสถ์น้อย”เพราะเป็นอุโบสถที่มีขนาดเล็ก มีผู้เล่าสืบต่อกันมาว่าท่านผู้สร้างโบสถ์น้อยได้ฝังของมีค่าและพระทองคำไว้ในพิธีฝังลูกนิมิตสันนิฐานจากหลักฐานที่ได้ขุดพบในปี พ.ศ. 2493 ซึ่ง นายเพ็ชร พงษ์มณี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 (บ้านสะบู) ในสมัยนั้น พร้อมทั้งชาวบ้านได้แผ้วถางบริเวณรอบ ๆ พระอุโบสถ เพื่อปรับพื้นดินให้เรียบร้อยจึงได้พบแผ่นศิลาจารึกเป็นภาษาขอม และอักษรพื้นเมือง (ล้านนา) อ่านได้ความว่า“มีเงินอยู่ใต้ต้นละมุดลึก 3 ศอก” ลงชื่อ “หม่องยัง” แต่ไม่มีผู้ใดติดใจไปค้นหาเพราะปัจจุบันไม่พบตอต้นละมุดแล้วปัจจุบันโบสถ์น้อยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วและใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจทำสังฆกรรมของสงฆ์ โบสถ์น้อยถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงห้ามผู้หญิงเข้า เพราะเชื่อกันว่ามีอาถรรพ์ ชาวบ้านเล่าว่า เคยมีผู้หญิงวัยรุ่นจากกรุงเทพฯ มากับคณะทอดผ้าป่า ไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์เหล่านี้ได้เดินเข้าไปในโบสถ์น้อย พอพ้นธรณีประตูอุโบสถเท่านั้น ก็ซวนเซทำท่าจะล้มลงจึงรีบออกมา และบอกว่าหน้ามืดจะเป็นลม แล้วเธอก็ไม่เข้าไปอีกเลย
แต่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นอิทธิปาฎิหาริ์ของหลวงพ่อในโบสถ์น้อยที่ชื่อว่า“หลวงพ่อฤา”หลวงพ่อฤา เป็นพระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดเหมืองค่า “โบสถ์น้อย”มีผู้เล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อฤา เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองเนื้อแปดต่อมาประมาณ พ.ศ. 2310 สมัยกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าล้อมไว้ ชาวบ้านได้ช่วยกันก่ออิฐถือปูนฉาบองค์เดิมไว้ เพื่อพรางตาข้าศึกไม่ให้มาทำลายหรือขโมยไปชาวบ้านเชื่อกันว่าหลวงพ่อฤาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิปาฎิหารย์ผู้ทำผิดศีลหรือไปหยิบต้องของในโบสถ์ให้เสียหาย จะต้องมีเหตุเพทภัยต่าง ๆ นานาวิหารวัดเหมืองค่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2453 กว้าง 4 วา ยาว 8 วาชาวบ้านได้รวบรวมเงินสร้างวิหารนี้ เนื่องจากมีคนเพิ่มมากขึ้นพระอุโบสถคับแคบจึงทำให้ไม่สะดวกในการประกอบศาสนกิจ ปัจจุบันวิหารนี้ได้ทำการบูรณะใหม่ พร้อมกับ “โบสถ์น้อย” ที่ประดิษฐ์ฐานของ “หลวงพ่อฤา”ทางวัดได้จัดทำหลวงพ่อฤาเป็นรุ่นแรกขึ้นไว้จำนวนหนึ่ง โดยมีหลวงพ่อแพจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ปลุกเสกด้วยตนเอง หากญาติโยมที่ไปนมัสการหลวงพ่อฤาก็จะได้เช่าบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เดี๋ยวนี้เหลือจำนวนไม่มานักชาวบ้านหลายคนที่ได้เช่าบูชา หลวงพ่อฤา ได้กลับมาเล่าให้ พระครูปลัดสิงหล
ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อฤา ทำให้สามารถแคล้วคลาดภยันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุและหลายคนได้รับโชคจากหลวงพ่อฤามาแล้ว สร้างความอัศจรรย์ใจไปตาม ๆ กัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น