สมาพันธ์ปาล์มน้ำมันฯ ปลื้มนโยบาย B10 ดันปาล์มน้ำมัน ราคาพุ่ง 7 บาทต่อกิโลกรัม

สมาพันธ์ปาล์มน้ำมันฯ ปลื้มนโยบาย B10 ดันปาล์มน้ำมันพุ่ง 7 บาทต่อกิโลกรัมขอบคุณรัฐมนตรีพลังงานทีผลักดันนโยบายจริงจังทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ “น้าสน”รุกอีกก้าวเล็งติดมิเตอร์เช็ก CPO และ B100 แบบเรียลไทม์และซื้อขายล่วงหน้าด้วย เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา

วันที่ 13 ม.ค. 2563 กลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยตัวแทนจากสมาพันธ์ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และสมาคมปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สระบุรี สกลนคร ปทุมธานี ตรัง กระบี่ กว่า 20 คน ได้เข้าพบ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอบคุณกระทรวงพลังงานที่ได้ผลักดันโยบายการบังคับใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ถูกต้องและเข้าถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ช่วยยกระดับราคาปาล์มน้ำมันให้สูงขึ้น สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศ พร้อมขอร้องให้ผลักดันโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไป โดยไม่มีการนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศด้วย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังพบปะตัวแทนกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันทั่วประเทศว่า ตัวแทนเกษตรกรสวนปาล์มได้มาเยี่ยมและขอบคุณการผลักดันนโยบายน้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ ซึ่งในเดือนมีนาคม 2563 นี้ จะสามารถจำหน่าย B10 ได้ทุกสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ขณะนี้ยอดการใช้ B10 ถือว่าเติบโตเร็วมาก ซึ่งเป็นเพราะความเชื่อมั่นจากนโยบายที่กำหนดไว้จะไม่เปลี่ยนสัดส่วนของ B10 ไม่ว่าสต็อกของปาล์มจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทำให้ตลาดเกิดความเชื่อมั่นทั้งค่ายรถยนต์ ทั้งผู้ประกอบการโรงกลั่น

“ต้องถือว่านโยบาย B10 เป็นกลไกสำคัญ มีส่วนแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันได้เหมือนดังที่พี่น้องเกษตรกรมาแลกเปลี่ยนในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อจากนี้ไปคือ การบริหารกลไกตลาด ซึ่งสำหรับกลไกที่มีอยู่ของทางกระทรวงพลังงานเชื่อมั่นว่า จะรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่คงต้องทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับพี่น้องเกษตรกร รวมทั้งกลไกด้านผู้ค้าด้วย ซึ่งในส่วนของไบโอดีเซล(B100) ได้เตรียมการรองรับไว้ระดับหนึ่งแล้ว เร็วๆ นี้จะเตรียมติดตั้งมิเตอร์ในถัง B100 เพื่อติดตามตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และสามารถบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ที่เตรียมติดมิเตอร์ในส่วนของ CPO อีกด้วย”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว

นอกจากนี้ ในอนาคตมีความเป็นไปได้ในเรื่องของตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยอาจจะนำสต็อก B100 มาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อช่วยลดผลกระทบเรื่องฤดูกาล และช่วยบริหารสต็อก ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาได้ระดับหนึ่ง

“ผมไม่ได้หวังผลเรื่องราคาปาล์มน้ำมันอย่างเดียว เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือ ต้องการให้เกิดมาตรฐานปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ หวังจะยกระดับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน สร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับชาวสวนปาล์ม”

ทั้งนี้ ในการพบปะหารือ ทางตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มฯ มีข้อห่วงกังวลเรื่องต่างๆ อาทิ เรื่องการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เรื่องฤดูกาลช่วงก.พ.-เม.ย.ที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกสู่ตลาดมาก เรื่องกลไกตลาดที่มีผลกระทบต่อราคา เป็นต้น

ด้านนายชโยดม สุวรรณรัตนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาพันธ์สวนปาล์มภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้จะเริ่มใกล้สู่ฤดูกาลที่ปาล์มจะล้นตลาดแล้วคือช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. และยังกังวลเรื่องการปั่นราคาปาล์มสูงเกินจริงเพื่อให้เกิดการนำเข้า จึงอยากให้ทางการเตรียมมาตรการรองรับ

นายชโยดม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาหลายปีราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ต้นทุนการปลูกอยู่ที่ 3.60 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนเรื่อยมา วันนี้ปาล์มน้ำมันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6-7 บาทต่อกิโลกรัม เพราะนโยบายส่งเสริม B10 ของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงงานท่านนี้ ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ กลุ่มคนปลุกปาล์มทั่วประเทศจึงเดินทางมาขอบพระคุณท่านและถือโอกาสเสนอข้อห่วงใย ด้วย พร้อมกับขอให้เดินหน้าโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไป เพื่อช่วยเหลือชาวเกษตรกรชาวสวนปาล์มต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น