เปิดเซฟโซนกว่า 211 แห่งให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว หลบมลพิษหมอกควัน

พนักงานร้าน nourish vegan bab & breakfast ย่านอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดป้าย “สถานที่ร่วมโครงการ Smog Safety Zone เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่นควันให้กับเมืองเชียงใหม่” หรือเซฟโซน เพื่อประชาชนสัมพันธ์ให้ชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวได้เข้ามาใช้บริการรับอากาศบริสุทธิ์ หลังมลพิษหมอกควันเริ่มปกคลุมเมืองเชียงใหม่ ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานจนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นโฮสเทล และร้านกาแฟที่มีบรรยากาศร่มรื่น และมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ถึง 2 ตัว เพื่อฟอกอากาศภายในอาคารให้ปลอดจากฝุ่นควัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องสูดดมเอาฝุ่นควันพิษเข้าไป

ส่วนสถานการณ์มลพิษหมอกควันว่าสุดวันที่ 14 ม.ค. 2563 แอพพริเคชั่นแอร์โฟร์ไทย รายงานคุณภาพอากาศที่สถานีตรวจวัด บริเวณศูนย์ราชการ จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ วัดค่าพีเอ็ม 2.5 ได้ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพคุณภาพอากาศใน ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดค่าพีเอ็ม 2.5 ได้ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่แอพพริเคชั่น AirVisual ที่ตรวจเช็คคุณภาพอากาศทั่วโลก พบว่าที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ มีค่าพีเอ็ม 2.5 สูงกว่า 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำให้ผู้ที่อยู่นอกอาคารต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลพิษจากหมอกควัน โดยวันนี้คุณภาพอากาศของ จ.เชียงใหม่ ยังติดอันดับเมืองที่มีมลพิษสูงในอันดับที่ 16 ของโลกด้วย

นายไพรินทร์ ลิ้มเจริญ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ กล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ที่ห้องประชุมอาคารอำนวยการ ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ว่า สถานการณ์มลพิษหมอกควันที่เริ่มกลับมาเกินค่ามาตรฐานอีกครั้ง จังหวัดได้สั่งการให้หลายฝ่ายจัดตั้งเซฟโซนขึ้น โดยปีนี้เน้นลดขนาดของเซฟโซนให้เล็กลง แต่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย จากเดิมเมื่อปี 2562 จัดตั้งพื้นที่เซฟโซนไว้ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา

สำหรับเซฟโซนที่จัดตั้งขึ้นมีทั้งสิ้น 211 แห่ง กระจายอยู่ในโรงเรียน อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กศน. และร้านกาแฟ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ทุกพื้นที่ทั่ว จ.เชียงใหม่

ด้านนายนรินทร์ ประทวนชัย ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังสถาการณ์มลพิษหมอกควันเริ่มส่งผลกระทบกับุสุขภาพประชาชน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศห้ามเผาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ไปจนถึง 30 เมษายน 2563 หากพบมีการเผาจะดำเนินการจับกุมและปรับ 25,000 บาท ในส่วนพื้นที่การเกษตรนั้น ถ้าหากจะมีการเผาให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอทราบก่อนทุกครั้ง

นอกจากนี้ได้มีหนังสือสั่งการไปยังอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 25 อำเภอ ให้ติดตามสถานการณ์มลพิษหมอกควัน และสภาพอากาศจากศูนย์อุตินิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างต่อเนื่อง และแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง โดยขณะที่มวลอากาศเย็นได้แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในขณะที่สภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ทำให้อากาศไม่ลอยตัวมลพิษหมอกควันจึงยังปกคลุมในพื้นที่

อย่างไรก็ตามในพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น AIR cmi เป็นครั้งแรกของ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์มลพิษหมอกควัน รวมทั้งให้คำแนะนำกับประชาชนในการปฏิบัติตัวและตั้งรับกับวิกฤติหมอกควันที่เกิดขึ้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น