(มีคลิป) คุมตัวหนุ่มโหดควงปืนยิงเพื่อนบ้านบาดเจ็บสาหัส ทำแผนที่เกิดเหตุ หลังตำรวจปิดล้อมข้ามคืน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ม.ค.63 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัญชา อินทร์ถา ผกก.สภ.สารภี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สารภี ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายเกรียงไกร สุกันทา อายุ 43 ปี ที่อยู่ 97 ม.6 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ภายหลังจากที่ช่วงเย็นวานนี้ (15 ม.ค.63) ทางผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนอิโบ๊ะ(ลูกซองพกสั้น) บุกยิง นายสุริยนต์ อาจเมือง อายุ 58 ปี ที่อาศัยอยู่บ้านใกล้กันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทางผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวภายในบ้านหลังก่อเหตุ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามจับกุม แต่ทางผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนที่มีอยู่ยิงขัดขืนต่อสู้ ไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม อีกทั้งยังได้มีการใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระสุนเกือบถูก พ.ต.อ.บัญชา อินทร์ถา ผกก.สภ.สารภี และได้มีการยิงตอบโต้ไป ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังและตรึงกำลังอย่างหนาแน่นทั่วบ้านที่ผู้ต้องหาหลบซ่อน

เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนี ตลอดทั้งคืนและได้พยายามเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องให้ทางภรรยากับลูกอีก 2 คน เข้าไปพูดคุย จนทางผู้ต้องหาใจอ่อนยอมมอบตัวในที่สุด โดยหลังการจับกุมตัวทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางเป็นอาวุธปืนขนาด .38 ได้ 1 กระบอก และ อาวุธปืน อิโบ๊ะ (ลูกซองพกสั้น) ที่ใช้ก่อเหตุยิงนายสุริยนต์ พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายเกรียงไกร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้มีประชาชนและกลุ่มชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ ต่างพากันมามุงดูเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่น่าสะเทือนขวัญ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการควบคุมตัว นายเกรียงไกร ไปชี้จุดก่อเหตุ และจุดที่ทำการหลบหนีซ่อนตัวภายในบ้าน ส่วนสาเหตุที่ นายเกรียงไกร ได้ก่อเหตุนั้นทราบมาว่า เกิดจากอาการเครียด เพราะระแวงและคิดไปเองว่า นายสุริยนต์ นั้นได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการที่ตนเองเสพยาเสพติด และมักเห็นรถของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขับผ่านบ่อยๆ จนเกิดความหวาดระแวงว่าทางเจ้าหน้าที่จะมาจับกุม เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเกรียงไกร ได้เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง และคิดว่า นายสุริยนต์ ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียงนั้น เป็นคนให้เบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้ตนถูกจับกุม

โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุ นายเกรียงไกร ได้นอนอยู่ภายในบ้านพัก ซึ่งได้ยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้าไปจำนวน 1 เม็ด เนื่องจากเกิดความเครียดและนอนไม่หลับ และจากนั้นก็เกิดความหวาดระแวงขึ้นมา และคิดว่า นายสุริยนต์ จะแจ้งความเบาะแสกับตำรวจ เพื่อมาจับกุมตัวเองอีก ด้วยความหวาดระแวงจึงได้เอา อาวุธปืน อิโบ๊ะ (ลูกซองพกสั้น) ที่มีอยู่ในบ้านใส่กระเป๋าเดินไปหา นายสุริยนต์ ที่ขณะนั้นนั่งอยู่ที่บริเวณเล้าไก่ เมื่อเจอ นายสุริยนต์ ก็ได้ถามว่า “ทำไมต้องแจ้งตำรวจจับตน” แต่เมื่อทาง นายสุริยนต์ ได้ยินก็หันหน้ามาและบอกว่า “ไม่ได้เป็นคนแจ้งตำรวจจับแต่อย่างใด” ก่อนที่ทาง นายเกรียงไกร จะชักอาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส นายสุริยนต์ กระสุนเข้าที่กระพุ้งแก้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไป อยู่ภายในบ้านตลอดหลังเกิดเหตุ

ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการปิดล้อมพื้นที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ทางผู้ต้องหาได้หลบซ่อนตัว และได้ทำการจับกุมตัวได้นั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสอบสวน ไล่ความมาตั้งแต่ช่วงแรก ที่ทางผู้ต้องหาก่อเหตุ โดยอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต และในส่วนของพฤติกรรมที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ก็ได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าว ยิงใส่บริเวณศีรษะของผู้บาดเจ็บ

นอกจากนี้พฤติการณ์หลังการก่อเหตุ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบ ก็ยังมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งหลังการรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ได้มีการดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีอยู่ 4 ข้อหา โดยข้อหาแรก มีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาที่สอง การใช้อาวุธปืนยิง นายสุริยนต์ จนได้รับบาดเจ็บ จึงได้มีการตั้งขอหาพยายามฆ่าผู้อื่น และในส่วนข้อหาที่สามคือ ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะทำการปิดล้อม จึงได้ตั้งข้อกล่าวหา ต่อสู้ ขัดขวาง และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และเสพยาเสพติด

สำหรับในส่วนของมูลเหตุนั้น จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายเกรียงไกร เคยถูกจับกุมและมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน และได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดออกมา ส่วนสาเหตุที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บนั้น จากการสอบถามทราบว่า เกิดจากมีความเครียด เนื่องจากในวันเกิดเหตุได้ทะเลาะกับภรรยา ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นคนเสพยาเสพติดมานาน จนบางครั้งอาจมีปัญหาทางระบบประสาท จนกระทั่งเกิดมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้จึงหงุดหงิด และเท่าที่ทราบจากญาตินั้น ทางผู้ต้องหาอาจจะเข้าใจผิด เนื่องจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในครั้งก่อน ซึ่งเข้าใจว่าเพื่อนบ้านเป็นคนให้เบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาคิดไปเอง เนื่องจากเรื่องเบาะแสการแจ้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มานั้น เป็นความลับอยู่แล้ว และไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องที่ได้มีการยิงต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบถามผู้ต้องหา ระบุว่าเกิดจากความตื่นตกใจเนื่องจากกำลังจะออกจากบ้าน เพื่อจะหลบหนี แต่พอเปิดประตูมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ยิงปืนใส่

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางด้าน นายเกรียงไกร ผู้ต้องหาได้กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ตนได้กระทำลงไป สาเหตุที่ทำลงไปนั้นเพราะถูกแจ้งจับทุกวัน ส่วนที่รู้ว่าคู่กรณีแจ้งจับ เพราะเนื่องจากเวลารถตำรวจหรือรถของเจ้าหน้าที่มา จะไปจอดบ้านหลังดังกล่าวทุกครั้ง โดยครั้งก่อนที่ถูกจับกุมไปนั้น ก็ได้ผ่านกระบวนการบำบัดมาแล้ว แต่หลังจากกลับมาก็ระแวงว่าจะมีคนมาแจ้งความกลั่นแกล้ง ซึ่งตนก็อยากจะขอโทษคู่กรณีและรู้สึกสำนึกผิด โดยหลังจากที่ทางภรรยาและลูก ได้พยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อม ตนก็คิดได้และจึงเข้ามอบตัวในที่สุด

อ่านข่าวก่อนหน้า
ด่วน! หนุ่มโหดยิงเพื่อนเจ็บสาหัส พร้อมหลบหนีเข้าไปอยู่ในบ้าน ต.ชมภู อ.สารภี 
ด่วน! ยิงใส่ผกก.สารภีกระสุนเฉียดหน้า ต. ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ 
(มีคลิป) ตำรวจ อ.สารภี บุกตอนฟ้าส่างจับ “ไอ้ไกร” มือปืนยิงโหด 

ร่วมแสดงความคิดเห็น