วอดทั้งหลัง !! หนุ่มใหญ่เมืองแพร่ ประกาศเผาบ้านตัวเองหลายครั้ง สุดท้ายเผาจริง

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 22 มกราคม 2563 ร.ต.อ.เสกสันต์ ปัญญายืน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 4 ต.กาญจนา อ.เมือง จ.แพร่ หลังรับแจ้งแล้วจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ สว่างประเสริฐ ผกก.ทราบ และประสานขอกำลังรถดับเพลิงจาก อบต.กาญจนา อบต.นาจักร อบต.ป่าแดง ทต.ช่อแฮ ทม.แพร่ และท้องถิ่นข้างเคียง รวม 10 คัน ไปให้การช่วยเหลือในที่เหตุ และระดมช่วยกันดับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงได้สงบลง และบ้านต้นเพลิงเสียหายไปทั้งหลัง และยังลุกลามไปบ้านข้างเคียงอีกบางส่วน

จากการตรวจสอบบ้านที่ถูกไฟไหม้ เป็นบ้านไม้สองชั้น ถูกเผาวอดทั้งหลัง และจากการสอบสวนชาวบ้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเกรียงไกร แก้วจันทร์หล้า อายุ 39 ปี เจ้าของบ้าน เกิดอาการคุ้มคลั่งส่งเสียงดัง เอะอะโวยวาย และตะโกนเสียงดังว่าจะเผาบ้าน และชาวบ้านเห็นนายเกรียงไกร จุดไฟเผาบ้าน จากนั้นไฟก็ลุกลามขึ้น ส่วนนายเกรียงไกร ก็ออกจากบ้านไป ชาวบ้านแจ้งจึงรถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เบื้องต้น มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ นางถนอมศรี ถิ่นแฝง อายุ 59 ปี และ ด.ญ.พิชญ์สินี เรือนมั่น อายุ 12 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมอาสาสมัครกู้ภัย จ.แพร่ เร่งนำตัวส่ง รพ.แพร่ อย่างเร่งด่วน

จากการให้การของ นายเส็ง จักรสอน ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ ให้การว่าได้รับแจ้งจากนายอนันต์ ถิ่นแฝง ว่าก่อนเกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 3 ม.4 ต.กาญจนา มีคนเมาอาละวาดคุ้มคลั่งทำลายบ้านและจะเผาบ้าน ตนจึงบอกให้โทรแจ้ง 191 จากนั้นเพียงไม่นานก็ได้รับแจ้งว่าบ้านถูกเผาและไฟกำลังลุกไหม้ จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงเข้าช่วยเหลือดับไฟ ซึ่งปกติ นายเกรียงไกร มักจะอาละวาดทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านข้างเคียงเสมอ บางวันก็จะถือดาบเดินตามถนน ด่าชาวบ้านไปทั่ว

นายอนันต์ ถิ่นแฝง อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังให้การว่า ทุกวันนายเกรียงไกร มักจะเมาและอาละวาด ชอบเอะอะโวยวายเป็นประจำ จนทำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันบริเวณนี้เดือดร้อน จนล่าสุดวันนี้ ประมาณ 2 ทุ่ม ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวาย ทุบบ้านเรือนทำลายข้าวของ และบอกจะเผาบ้าน ตนเอง จึงได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบ และกำลังจะโทร 191 เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแต่ไม่ทันได้โทร ได้กลิ่นไหม้จึงมาดูก็พบไฟกำลังลุกไหม้ จึงได้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือ

นายนิวัฒน์ ถิ่นสุข เพื่อนบ้านเล่าว่า ทุกวัน นายเกรียงไกร มักจะอาละวาด เดินถือดาบตามถนนบ้าง ทุบบ้านเรือนทำลายข้าวของ จนเพื่อนบ้านละแวกนี้ไม่ได้หลับได้นอนกัน จนล่าสุดวันเกิดเหตุตนเองและภรรยาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเหมือนเดิม แต่วันนี้บริเวณหมู่บ้านใกล้เคียงมีงานศพ ชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปหน้าบ้านนายเกรียงไกร ก็จะเอาขวดมาปาใส่ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและไม่กล้าที่จะจอดดู สักพักก็ได้ยินว่าจะเผาบ้าน ตนเองจึงแอบดูเห็นนายเกรียงไกร จุดไฟใต้ถุนบ้านแต่ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะลุกไหม้ จึงเข้าห้อง สักพักมีชาวบ้านมาเรียกขอความช่วยเหลือ จึงรู้ไฟไหม้จริง

สอบสวนทราบว่า นายเกรียงไกร เป็นช่างทาสีฝีมือดี แต่ในช่วง 2 ปี ไม่ค่อยมีงานทำ ในขณะที่นายเกรียงไกร ก็ติดยาด้วย มีเงินเท่าไหร่ก็ไปหายามาเสพ ที่บ้านอาศัยอยู่คนเดียว พ่อแม่เสียชีวิตหลายปีมาแล้ว ขณะนี้ตำรวจได้ออกติดตามตัวนายเกรียงไกร และตามไปพบกำลังเดินเป๋ไปเป๋มาอยู่บนถนนหมู่ที่ 12 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ จึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี แต่ในขณะจับกุมนายเกรียงไกร ยังพูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง เนื่องจากยังมีอาการเมายาเสพติดและสุรา จึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น