ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ผู้สั่นคลอนธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีน

คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ โดยก่อนหน้านี้ทางการจีนเชื่อว่า ไวรัสเกิดจากการแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน และในขณะนี้ภายในประเทศจีนพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคปอดอักเสบ ข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 550  ราย จากเดิมก่อนหน้านี้ พบผู้ป่วยเพียง 200 ราย และเสียชีวิตจากการติดเชื้อดังกล่าวแล้วจำนวน 17 ราย โดยทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน แบ่งเป็น

– มณฑลหูเป่ย 444 ราย เสียชีวิต 17 ราย

– ปักกิ่ง 14 ราย

– กว่างตง 26 ราย

– เซี่ยงไฮ้ 9 ราย

– เจ้อเจียง 10 ราย

– หยุนหนาน 1 ราย

– ซื่อชวน 5 ราย

– ซานตง 2 ราย

– กว่างซี 2 ราย

– กุ้ยโจว 1 ราย

– อันฮุย 1 ราย

– ไห่หนาน 4 ราย

– หนิงเซี่ย 1 ราย

– ฝูเจี้ยน 1 ราย

– เจียงซี 1 ราย

– เทียนจิน 4 ราย

– เหอหนาน 5 ราย

– ฉงชิ่ง 6 ราย

– ซานซี 1 ราย

– หูหนาน 4 ราย

– เหลียวหนิง 2 ราย

– เหอเป่ย 1 ราย

– ไต้หวัน 1 ราย

– มาเก๊า 1 ราย

– มณฑลเจียงซู 1 ราย (ข้อมูลล่าสุด 23 มค. 63 พบผู้ติดเชื้อที่เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู)

– ฮ่องกง 1 ราย

ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 22.56. น. ตามเวลาไทย วันที่ 22 มกราคม 2563

ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดในครั้งนี้ ว่ามีการแพร่ระบาดที่รวดเร็วกว่าซาร์ส ดังนั้น ต้องควบคุมการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ด้วยการห้ามประชาชนที่สงสัยว่าจะได้รับเชื้อเดินทางออกจากเมือง ควบคู่เฝ้าระวังการแพร่ระบาด และขอความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่พบกการแพร่ระบาด คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และล่าสุดคือ ไทย

เรื่องนี้ทำให้ทางการจีนต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น ไม่ให้บุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางออกนอกพื้นที่ หรือนอกประเทศ แม้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีประกาศจำกัดการเดินทางไปยังมณฑลอู่ฮั่น อย่างเป็นทางการ แต่เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยว ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

จากเรื่องดังกล่าวทำให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองและป้องกันควบคุมโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ทำการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศใน 4 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

นายหลี่ปิน (รัฐมนตรีช่วยว่าการด้านสาธารณสุข ของจีน)

พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น การเฝ้าระวังในชุมชน โดยให้ความรู้ประชาชนเมื่อพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค DDC Hotline 1422

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกว่าการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคกระจายตัวมากขึ้น และส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกชะลอการเดินทางไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ระบาดจะคลี่คลายลง ซึ่งย่อมกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งในไทยและจังหวัดเชียงใหม่ซึ่ง เป็นหัวเมืองใหญ่ และธุรกิจหลัก คือ การท่องเที่ยว 

โดยเฉพาะช่วงนี้ ที่ปกติจังหวัดเชียงใหม่ยังจะอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 และด้วยปัจจัยลบดังกล่าวทำให้การท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ มีโอกาสถดถอยลงไป กว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งเราคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิดต่อไป

นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ใน จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการคัดกรอง 2 ระบบ คือ คัดกรองด้วยเครื่อง Thermo scan ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในผู้โดยสารสายการบิน Air China เที่ยวบินตรงอู่ฮั่น-เชียงใหม่ และการคัดกรองที่โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนทุกแห่งในจ.เชียงใหม่

จากรายงานพบผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรค (PUI) จำนวน 5 ราย ผลตรวจ ไม่พบไวรัสโคโรนา 2 ราย และ อีก 3 รายอยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  

รายที่ 1 เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี

รายที่ 2 เป็นเด็กหญิงจีน อายุ 7 ปี

รายที่ 3 หญิงจีน อายุ 23 ปี 

รายที่ 4 ชายจีน อายุ 28 ปี  

รายที่ 5 ชายจีน อายุ 18 ปี  

นพ.จตุชัย มณีรัตน์ ขอให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงมั่นใจในระบบการเฝ้าระวังคัดกรอง ป้องกันและควบคุมโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของประเทศไทยจะสามารถทำการเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้อย่างแน่นอน

โดยทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ จะทำการแถลงข่าวแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-211048-50 ต่อ 110

แม้ว่าจะมีการควบคุมในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด และทำให้การแพร่ระบาดของโรค อยู่ในวงจำกัด แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวในระยะยาว เพราะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุด ประมาณ 1-3 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์ แต่อย่างไรก็ตามในระยะยาวการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอีกหลายเรื่อง อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ยังฟื้นตัวช้า การที่เงินบาทแข็งค่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งการแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่รุนแรง และการถูก แย่งลูกค้าจากคู่แข่งรายใหม่ ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง

โดย…บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น