ฝนตกหนักทีไรน้ำท่วมทุกที ใครที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมบ่อย ๆ รู้ไว้เลยว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายโรคเลยทีเดียว
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม
อาการสำคัญ
- ไข้
- ไอ
- เจ็บคอ
- คัดจมูก
- มีน้ำมูก
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
การป้องกัน
- ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
- ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น
- เช็ดตัวให้แห้ง
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นหวัด
- ปิดปากและจมูกเวลาไอ หรือ จาม
- ล้างมือเป็นประจำ ด้วยน้ำ และสบู่
โรคระบบทางเดินอาหาร
ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ อหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์ และโรคตับอักเสบ
อาการสำคัญ
- ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ หรือมีมูกเลือด
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- มีไข้
- ปวดเมื่อยตามตัว
- เบื่ออาหาร
- ตัวเหลือง
- ตาเหลือง
การป้องกัน
- ทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด อาหารกระป๋องที่ยังไม่หมดอายุ กระป๋องไม่บวมหรือเป็นสนิม
- ดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำจากขวดที่ฝาปิดสนิท น้ำต้มสุก
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้ง ก่อนกินอาหาร และหลังการใช้ห้องน้ำ
- ห้ามถ่ายอุจจาระลงในน้ำโดยตรง ถ้าส้วมใช้ไม่ได้ ให้ถ่ายลงในถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในถุงขยะ
โรคฉี่หนู (หรือโรคเลปโตสไปโรซิส)
อาการสำคัญ
- ไข้สูงฉับพลัน
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา หรือปวดหลัง
- อาจมีอาการตาแดง
- มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
- ไอมีเลือดปน
- ตัวเหลือง
- ตาเหลือง
- ปัสสาวะน้อย
- ซึม
- สับสน
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน
- ป้องกันไม่ให้บาดแผลสัมผัสถูกน้ำโดยการสวมร้องเท้าบูธยาง
- รีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่แล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุดเมื่อต้องลุยน้ำย่ำโคลน
โรคน้ำกัดเท้า
อาการโรคน้ำกัดเท้า
- เท้าเปื่อยและเป็นหนอง
- คันตามซอกนิ้วเท้า
- ผิวหนังลอกเป็นขุย
- มีผื่นผุพอง
- ผิวหนังอักเสบบวมแดง
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน
- ป้องกันไม่ให้บาดแผลสัมผัสถูกน้ำโดยการสวมร้องเท้าบูธยาง
- รีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่แล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุดเมื่อต้องลุยน้ำย่ำโคลน
โรคตาแดง
อาการสำคัญ
- ตาแดง
- ระคายเคืองตา
- น้ำตาไหล
- กลัวแสง
- มีขี้ตา
- หนังตาบวม
การป้องกัน
- ล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีถ้ามีฝุ่นละอองหรือน้ำสกปรกเข้าตา
- ไม่ควรขยี้ตาด้วยมือที่สกปรก อย่าให้แมลงตอมตา
- แยกผู้ป่วยตาแดงออกจากคนอื่น ๆ
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันเพื่อป้องกันการระบาดของโรค
ไข้เลือดออก
อาการสำคัญ
- ไข้สูงลอย
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- หน้าแดง
- จุดเลือดออกตามผิวหนัง
- เลือดออกตามไรฟัน
การป้องกัน
- ระวังอย่าให้ยุงกัดในเวลากลางวัน
- นอนในมุ้ง
- ทายากันยุง
- กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยปิดฝาภาชนะเก็บน้ำไม่ให้มีน้ำขัง
อุบัติเหตุและการถูกสัตว์ร้ายมีพิษกัดต่อย
นอกจากโรคต่าง ๆ แล้ว ยังมีอุบัติเหตุที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่
- ไฟดูด
- จมน้ำ
- เหยียบของมีคม
อันตรายจากสัตว์มีพิษที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่
- งู
- ตะขาบ
- แมงป่อง
ซึ่งหนีน้ำมาหลบอาศัยในบริเวณบ้านเรือน
การป้องกัน
- ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัตเอาต์ตัดไฟฟ้าในบ้านก่อนที่น้ำจะท่วมถึง
- เก็บกวาดขยะ วัตถุแหลมคม ในบริเวณอาคารบ้านเรือน และตามทางเดินอย่างสม่ำเสมอ
“โรคผิวหนังที่เกิดจากน้ำท่วม”
เมื่อเกิดอุทกภัย
กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคต่างๆให้แพร่กระจายและปะปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง ก่อให้ เกิดโรคผิวหนังบางชนิด โรคผิวหนังที่พบร่วมกับภาวะน้ำท่วมได้บ่อยมีดังนี้
น้ำกัดเท้า
เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังเนื่องจากความเปียกชื้นและการสัมผัสสิ่งสกปรก สารเคมีต่างๆในน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ ผิวหนังจะมีลักษณะเปื่อยลอก โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าอาจมีผื่นแดง แสบคันร่วมด้วย
การรักษาเบื้องต้น คือ ใช้ยาทาแก้คันกลุ่มสเตียรอยด์ครีม ทาบริเวณผื่นผิวหนังอักเสบ และอาจใช้ยาฆ่าเชื้อราในกรณีที่มีการติดเชื้อราร่วมด้วย
การติดเชื้อราที่ผิวหนัง
หากเกิดมีภาวะน้ำกัดเท้าต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ ผิวที่เปื่อยลอก โดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วจะติดเชื้อราได้ ซึ่งจะมีผื่นแดง แฉะ มีขุยขาวลอกบริเวณซอกนิ้ว หรือเป็นชนิดผื่นหนา เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุย ทั้งที่ฝ่าเท้าและซอกนิ้ว มีกลิ่นเหม็น หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “ฮ่องกงฟุต” ซึ่งเกิดจากเชื้อกลากชนิดหนึ่งนั่นเอง
การติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้น
นอกจากการสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรงแล้ว ภาวะที่ผิวหนังอับชื้นอยู่เป็นเวลานานในแต่ละวัน เช่น การสวมรองเท้าบู๊ทยาง อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นตื้นที่บริเวณฝ่าเท้าได้ ซึ่งจะมีลักษณะเปื่อยยุ่ยเป็นหลุมเล็กๆ ส่งกลิ่นเหม็น
แนวทางการดูแลผิวหนังเมื่อประสบอุทกภัย
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรกโดยตรง หรือใส่รองเท้าบู๊ทยางเมื่อต้องเดินลุยน้ำท่วมขัง
– หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากสัมผัสน้ำท่วมขัง ให้รีบถอดรองเท้าและเสื้อผ้าที่เปียกน้ำออกแล้วล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที เช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วซึ่งเกิดการอับชื้น ได้ง่าย
– หากมีบาดแผลถลอกในบริเวณที่สัมผัสน้ำสกปรกควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชะล้างด้วย
ต้องรีบไปพบแพทย์เมื่อ
– มีบาดแผลที่เกิดจากของมีคมใต้น้ำทิ่มตำ นอกจากการปฏิบัติการดูแลเบื้องต้นแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับประทานยาป้องกันแผลติดเชื้อและต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วย
– มีการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามลงในผิวหนังชั้นลึกจนเกิดเป็นกลุ่มโรคจำพวกไฟลามทุ่ง ผิวหนังจะบวม แดง ร้อน กดเจ็บ และ ลามเร็วไปยังบริเวณใกล้เคียง ต่อมาอาจมีไข้สูง และต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตร่วมด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด
– มีการติดเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังชั้นลึกของเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เช่น เบาหวาน ตับแข็ง โลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นต้น ในกรณีนี้การติดเชื้อมักจะรุนแรง ลามเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องรีบไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน
อ้างอิง รพ.กรุงเทพ /klanghospital
ร่วมแสดงความคิดเห็น