ปภ.แนะผู้ใช้รถติดก๊าซตรวจสอบ – ดูแล – เติมก๊าซถูกวิธี…ลดเสี่ยงก๊าซรั่ว – ไฟไหม้รถ
รถติดตั้งระบบก๊าซจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากอุปกรณ์ประจำรถบางประเภทไม่ได้ถูกผลิตให้ทนต่อความร้อนจากการเผาไหม้ของก๊าซ จึงเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ประกอบกับการเติมก๊าซอย่างไม่ถูกวิธี อาจเป็นสาเหตุ
ที่ก่อเกิดอันตราย เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติ
ในการตรวจสอบดูแลอุปกรณ์ระบบก๊าซและการเติมก๊าซอย่างถูกวิธี ดังนี้
ตรวจสอบรถติดตั้งระบบก๊าซ
- หมั่นตรวจสอบระบบก๊าซให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยนำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการตามระยะเวลาที่กำหนดหรือ
อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากอุปกรณ์ระบบก๊าซชำรุด - ตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ระบบก๊าซตามระยะเวลาที่กำหนด อาทิ เปลี่ยนกรองไอก๊าซ กรองก๊าซ หัวเทียนทุก 20,000 กม.
ทำความสะอาดกรองอากาศทุก 50,000 กม. ตั้งบ่าวาล์วไอเสียทุก 40,000 กม. ล้างหม้อต้มก๊าซทุก 20,000 กม. และตรวจสอบวาล์วเครื่องยนต์ทุก 30,000 กม. - ตรวจสอบรอยรั่วซึมของก๊าซอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้น้ำสบู่ลูบหรือหยดตามข้อต่อท่อเดินก๊าซ หากพบจุดรั่วซึม ให้นำรถ
เข้าศูนย์บริการซ่อมแซม
เติมก๊าซอย่างถูกวิธี - เลือกใช้บริการจากสถานีบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด
- ดับเครื่องยนต์และลงจากรถ เนื่องจากขณะเติมก๊าซ ถังก๊าซจะยืดและหดตัวจากแรงดันของเครื่องอัดก๊าซ จึงมีความเสี่ยงต่อการ
เกิดระเบิดจากแรงอัดก๊าซ - ห้ามก่อให้เกิดประกายไฟในขณะเติมก๊าซ อาทิ สูบบุหรี่ ใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะหากมีก๊าซรั่ว จะส่งผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้รถได้
- ไม่เติมก๊าซเกินความจุของถังก๊าซ โดยเติมก๊าซไม่เกินร้อยละ 80 ของความจุถัง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของถังก๊าซ และ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดระเบิดและเพลิงไหม้รถ - ไม่เติมก๊าซผิดประเภท ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดระเบิดและไฟไหม้รถ เนื่องจากถังก๊าซถูกออกแบบมาสำหรับใช้ระบบก๊าซเฉพาะระบบใดระบบหนึ่ง
- รอพนักงานถอดสายก๊าซก่อนเคลื่อนรถ เพื่อป้องกันรถกระชากสายเติมก๊าซ ทำให้เกิดก๊าซรั่ว
ดูแลรถติดตั้งระบบก๊าซ - เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ทนความร้อนจากกการเผาไหม้ พร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและทำความสะอาดไส้กรองอากาศให้บ่อยขึ้น
- รักษาน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ 1 ใน 4 ส่วนของถัง เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ รวมถึงป้องกันไม่ให้ถังน้ำมันและเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ
- สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ระบบหัวฉีดน้ำมันทำงาน จะช่วยรักษาประสิทธิภาพเครื่องยนต์
- ไม่ปรับแต่งการจ่ายก๊าซหรือดัดแปลงอุปกรณ์ระบบก๊าซด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายหรือทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ หากสังเกตพบเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ อาทิ เสียงดัง เครื่องยนต์สั่น เครื่องเร่งไม่ขึ้น ไม่ตัดเข้าระบบก๊าซ ให้นำรถเข้าตรวจสอบระบบก๊าซ อีกทั้งผู้ใช้งานรถยนต์ระบบก๊าซควรติดตั้งถังดับเพลิงเคมีขนาดเล็กไว้ประจำรถ หากเกิดไฟไหม้รถเล็กน้อย
จะได้ควบคุมเพลิงด้วยตนเองในเบื้องต้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น