ทม.แพร่ จัดกิจกรรม “ตักบาตรบนเมก”

เมื่อเช้าวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 07.00 น. นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ ผู้อำนวยการกองการศึกษา เจ้าหน้าที่กองการศึกษาและกองการเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอยและพี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรบนเมก ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)

จากนั้นได้รับฟังคติธรรมจากคณะพระสงฆ์วัดเมธังกราวาส (น้ำคือ) ความว่า คำว่า “บุญ” มาจากภาษาบาลี “ปุญฺญ” อ่านว่า ปุน-ยะ แปลว่า การทำความดี การชำระจิตใจให้ผ่องใส อาตมาได้มีโอกาสได้อ่านนิตยสารเล่มนึง เค้าบอกว่าอยากได้บุญเยอะๆ ต้องทำบุญด้วยเงินเท่านั้น ต้องทำบุญกับพระและวัดเท่านั้น มีการแก้กรรมสารพัดต่างๆ นาๆ จริงๆ แล้วเป็นการขัดแย้งธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นการเข้าใจผิดว่าการทำบุญเยอะต้องได้อานิสงส์เยอะ การทำบุญพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าเราต้องเปรียบเสมือนขากเสลดทิ้ง เมื่อเราขากเสลดทิ้งเราอยากเก็บเสลดนั้นมาไว้ในปากหรือไม่ เราก็ไม่อยากจะเก็บ ต้องทำใจอย่างนั้นนะคุณโยมนะ บุญน้อยแต่ได้อานิสงส์เยอะเป็นเพราะว่าจิตใจของเค้านั้นบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นจิตใจที่มีความศรัทธาในคุณพระรัตนตรัย อาตมาจะเล่าประวัติของพระรูปนึงให้ฟัง ขึ้นชื่อว่าเป็นพระ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้ารูปนึงซึ่งในชาติที่แล้วท่านเกิดเป็นคนยากจน มีอาชีพหาของป่าไปขายในเมือง วันหนึ่งท่านได้เจอน้ำผึ้งแท้เดือนห้า ก็กะว่าจะเอาไปขายในเมือง เผอิญว่าในขณะที่เดินเข้าไปในเมืองนั้นได้สังเกตุเห็นประชาชนมากมายกำลังจัดข้าวจัดของเหมือนกำลังมีงานรื่นเริง ตัวท่านเองก็เข้าไปถามพ่อค้าคนหนึ่งว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อค้าตอบกลับมาว่า “ท่านไม่รู้รึว่าวันพรุ่งนี้จะมีสมเด็จพระศาสดามาบิณฑบาตในเมือง”

เราชาวเมืองจึงเตรียมอาหารคาวหวานไว้เพื่อจะทำบุญตักบาตร บุรุษเข็นใจคนนี้ตัวเองไม่มีเงินแต่ก็อยากจะทำบุญเพราะมีจิตใจที่เลื่อมใสพระศาสนา หันกลับไปดูในกระเป๋าตัวเองเจอน้ำผึ้งที่เพิ่งได้มา ก็เลยคิดในใจว่าจะนำไปถวายพระศาสดาในวันพรุ่งนี้ดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็รีบกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านก็รีบเปลี่ยนขวดน้ำผึ้งให้ดูดีที่สุดเลย พอวันรุ่งขึ้นตัวท่านเองก็มาใหม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าพร้อมกับสาวกเดินบิณฑบาต สงบ เรียบร้อย มีแต่ความศรัธาและความเลื่อมใส ก่อนจะใส่บาตรก็อธิษฐานในใจ “สาธุ ชาตินี้ข้าพเจ้าเป็นคนที่ยากจนข้นแค้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปขอความไม่มีจงอย่าบังเกิดมีแด่ข้าพเจ้า สาธุ” เสร็จพระพุทธเจ้าก็อนุโมธนา คุณโยมเชื่อไหมว่าบุรุษเข็ญใจคนนี้เนี่ยในกาลต่อมา เกิดมาเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า มีนามว่า “พระสีวลี” ที่คุณโยมท่านทั้งหลายชอบบูชาพระสีวลีเพราะว่าท่านเป็นพระที่มีแต่โชคมีแต่ลาภ เพราะมีคนภวายของให้ท่านตั้งแต่ท่านอยู่ในครรภ์ ด้วยอานิสงส์ในการทำบุญนี้ เพราะฉะนั้นคุณโยมท่านทั้งหลายเวลาทำบุญใส่บาตร เราต้องมีแต่จิตใจที่ศรัธาจิตใจที่เลื่อมใสในศาสนาพุทธ

ร่วมแสดงความคิดเห็น