ชาวแม่ฮ่องสอน และผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้า เฮ หลัง แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอนและทีมวางสะพาน สามารถประกอบสะพานตลอดทั้งคืนจนแล้วเสร็จ ล่าสุดเช้ามืดวันนี้สามารถเปิดการสัญจรให้ยานพาหนะวิ่งผ่านได้แล้ว แต่ต้องจำกัดนำหนักบรรทุกไม่เกิน 15 ตัน หากเกินกว่านั้นจะทำให้สะพานชำรุดได้
เมื่อเช้ามืดวันนี้ (2 ก.ค. 2565) นายอำนวย มาเมือง ผอ.แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ชุดเจ้าหน้าที่วางสะพานเหล็ก (เบร์ลี่ย์) ที่เดินทางมาจาก จ.พิจิตร ถึงที่สะพานข้ามน้ำแม่สะมาด ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา ได้เริ่มลงมือประกอบสะพาน และแล้วเสร็จเมื่อเวลา 05.30 น. จากนั้นได้ทำการเปิดการสัญจรให้รถวิ่งผ่านไปมาได้ โดยยังมีเจ้าหน้าที่ คอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
นายอำนวย มาเมือง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอนและชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอขอบพระคุณ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง นายพรชัย มิ่งขวัญ ผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) และ นายวิจารย์ ขุนเสถียร ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) ที่สนับสนุนการดำเนินงานในครั้งนี้จนสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วเเต่ในการสัญจรผ่านสะพานเบร์ลี่ย์
นายอำนวย มาเมืองฯ กล่าวต่อไปว่า สะพานเหล็กที่นำมาวางเพื่อแก้ไขปัญหา เป็นสะพานที่รับน้ำหนัก ไม่เกิน 21 ตัน เนื่องจากฐานสะพานเดิมชำรุดอยู่แล้ว จึงต้องลดโหลดบรรทุกน้ำหนักเหลือ 15 ตัน หากรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่บรรทุกสินค้าเกินกว่านั้นหากใช้ไปนานๆ จะทำให้สะพานชำรุดและทำให้ถนนถูกตัดขาดอีก ซึ่งหากรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จะต้องมีการทอยสินค้าบริเวณสะพานก่อนข้ามมา ซึ่งคาดว่าสามารถทำได้ ขณะที่สะพานจุดที่เสียหาย จะต้องทำเรื่องอนุมัติก่อสร้างสะพานใหม่ ที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างประสานกับทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนในการจัดหางบประมาณอยู่
สำหรับเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 เชื่อมระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับ จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าและรถบัสโดยสารระหว่างจังหวัด คือ กทม.-แม่ฮ่องสอน ซึ่งเมื่อถนนถูกตัดขาด จะกระทบต่อชาวแม่ฮ่องสอนอย่างหนักในการรับส่งสินค้าทางการเกษตร และอาหาร ,สินค้าจำพวกวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง และเป็นเส้นทางที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยว หากถูกตัดขาด จะส่งผลกระทบอย่างหนัก
ร่วมแสดงความคิดเห็น