พระจอมอื้อฉาวเผยไม่ได้ลักเงินวัด ส่วนสีกาถูกคนส่งมาล่อเพื่อเอาผิด
พระจอมอื้อฉาวเผยไม่ได้ลักเงินวัด ส่วนสีกาถูกคนส่งมาล่อเพื่อเอาผิด ล่าสุดทางนายอำเภอและสำนักพุทธ ประชุมกับชาวบ้านชี้แจงเรื่องวัด ในสถานะวัดร้าง ต้องรอการพิสูจน์หลักฐานดินใต้ฐานเจดีย์ จึงจะสามารถจัดตั้งเป็นวัดได้ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องพระจอมอื้อฉาว รับปากจะเดินทางมาสึกในวันที่ 9 ก.ค. 65 นี้ ด้านชาวบ้านเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดทางคดีอาญา และเสพเมถุนกับเด็กอายุต่ำกว่า 18
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา นายทศพล สินยะบุตร นอภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทีฆวุฒิ บัณฑิตย์ชูสกุล ผกก.สภ.ปาย ,พระคุณเจ้าท่านพระครูอนุสาร ปุญญาคม เจ้าคณะ อ.ปาย เจ้าอาวาสวัดแม่นาเติงใน และพระครูอนุสรณ์ จารุวรรณ เจ้าคณะ ต.เวียงหนือ เจ้าอาวาสวัดแม่ปิง และ นางอารีย์ พันธุ์จันทร์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวัดแม่เย็น เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน และคณะสงฆ์ อ.ปาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและชี้แจงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีชาวบ้านแม่เย็น เข้าร่วมประชุมจำนวน 100 กว่าคน
จากการประชุมสรุปได้ว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ยืนยันให้รอผลตรวจดินใต้ฐานองค์เจดีย์ ว่า ได้มีการก่อสร้างมากี่ปี เพื่อที่จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้อง ส่วนในเรื่องการไม่รับบริจาคของคณะศรัทธาในตอนนี้ สามารถเปิดให้รับบริจาคได้ เพียงแต่ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างวิหารใหม่ เนื่องจากยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการ
น.ส.จุไรรัตน์ กันทาสุข ผญบ.บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย ระบุว่า สำหรับวัดแม่เย็น เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และเคยมีทหารญี่ปุ่น มาตั้งฐานที่มั่นใกล้กับวัดแม่เย็น แต่ไม่ได้มีการบันทึกประวัติของวัดอย่างเป็นทางการ ทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่า ก่อตั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามคนเฒ่าคนแก่ที่อายุ 70 ปีขึ้นไปต่างก็ยึนยันว่า เคยไปทำบุญที่วัดแม่เย็นมาโดยตลอด
ผญบ.แม่เย็น กล่าวต่อไปอีกว่า กรณีพระวิสาขะ กระทำความผิดในฐานลักทรัพย์นั้น ทางชาวบ้านและคณะศรัทธาญาติโยม ไม่ทราบมาก่อน จนต่อมาเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้วิหารของวัด จึงได้เปิดดูข้อมูลในกล้องวงจรปิด และพบเห็นการกระทำดังกล่าว ทั้งเรื่องลักทรัพย์ และมีสีกาลอบเข้าไปหาบ่อยครั้ง จึงได้คอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดได้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัวพันทางเพศกับสีกาหลายคน ซึ่งสีกาเหล่านั้นเป็นเด็กชาวเขาอายุไม่เกิน 18 เมื่อได้หลักฐานชัดเจน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอฯ เพื่อให้ดำเนินการตามวินัยสงฆ์ ส่วนในเรื่องคดีอาญา ทางชาวบ้านจะเข้าแจ้งความต่อตำรวจในวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ พระวิสาขะ จะเดินทางมาสึกต่อเจ้าคณะอำเภอฯ
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่อง พระวิสาขะ เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสม และมีเรื่องอื้อฉาวกับสีกา อายุต่ำกว่า 18 ปี นั้น ทางเจ้าคณะสงฆ์ อ.ปาย ได้ทำหนังสือออกคำสั่งในนามเจ้าคณะ อ.ปายที่ 1/2565 เรื่อง ให้พระภิกษุพ้นจากความเป็นพระภิกษุ ว่าด้วยเรื่องพระภิกษุล่วงละเมิดพระวินัยและกระทำความผิดต่อพระวินัย ด้วยเจ้าคณะ อ.ปาย ได้รับร้องเรียนจากประชาชนบ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย ว่าผิดวินัยร้ายแรงนั้น เมื่อมาดูเอกสารคำร้องและพิจารณาไตร่ตรอง และสิ่งที่ส่งมาด้วยพร้อมเอกสารคำร้องที่มี การลงลายลักษณ์อักษรนั้น ปรากฎว่า พระใบฎีกาวิสาขะ (ใจหมู) ได้กระทำความผิดล่วงละเมิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง เกินกว่าจะให้ดำรงสมณเพศต่อได้ ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตาความในข้อ 26 พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561 กำหนดไว้ในมาตรา 26 ว่าพระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระธรรมวินัย และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดให้ได้รับนิคหกรรม (การลงโทษตามพระธรรมวินัย) ให้สึก ต้องสึกภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้น ทั้งนี้ ให้พระใบฎีกาวิสาขะ (ใจหมู) อายุ 42 ปี วัดแม่เย็น ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 6 เดือนกรกฎาคม 2565
วิศรุตวัฒน์ สุศิริวรรักษ์ เปิดเผยว่า เรื่องพระหลบหนีลี้ภัย ก็เพื่อตั้งหลัก เพราะขั้นตอนวินัยสงฆ์ยังไม่ได้มีการสอบสวน หลายคนตีความต่างๆ นาๆ ต้องถามเจ้าคณะอำเภอดูก่อน ส่วนท่านผู้ว่าฯ ก็ทำตามหน้าที่ ใครที่ทำให้ชื่อเสียง จ.แม่ฮ่องสอน และวงการพุทธศาสนาเสียหาย ท่านผู้ว่าฯ ต้องสอบก่อน ส่วนเรื่องพระผมจะประสานให้ พระที่จำวัดแม่เย็นก็ใช่ว่าพระเด่น หรือเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง พระดังๆ รวยๆ ที่ทำผิดวินัย เห็นหนีข้ามแดนไปก็เยอะ
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับพระวิสาขะ อ้างคำพูดของพระดังกล่าวว่า เรื่องการลักเงินวัดนั้น ตามที่ปรากฎในคลิป เป็นการดึงกระดาษที่มีคนนำมาปิดช่องใส่เงินเท่านั้น ตนไม่ได้ลักขโมยเงินบริจาคแต่อย่างใด ส่วนเรื่องหญิงสาวที่มีใกล้ชิด คาดว่า เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่เกลียดตน ส่งหญิงสาวมาล่อลวงตน เพื่อดิสเครดิต และหวังให้ตนเองติดคุก
ล่าสุดทางผู้ร้องเรียน ได้ส่งคลิปของพระวิสาขะ ขณะอยู่ในห้องสองต่อสองกับหญิงสาว และมีสัมพันธ์ทางเพศต่อกัน ต่อเจ้าคณะสงฆ์ อ.ปาย แล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น