สายด่วน ป.ป.ส.ตั้งเป้ายึดทรัพย์ 10.000 ล้าน

กฎหมายยาเสพติดใหม่ ขยายผล สืบสวนเส้นทางการเงิน พร้อมยึดทรัพย์ตัดวงจรมุ่งเป้า 10,000 ล้านบาท ด้านเลขาฯ ป.ป.ส. ย้ำชัด ข้อมูลจากประชาชนแจ้งผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 เน้นใช้พยานหลักฐานคือสิ่งสำคัญในการลงโทษตามกฎหมาย

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึง “ประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งเริ่มประกาศใช้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 และตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติด ยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด โดยเฉพาะด้านปราบปรามยาเสพติด ใช้ข้อมูลจากแหล่งข่าวบุคคลที่เรียกว่า “สายลับ” หรือ ข้อมูลได้รับการแจ้งข่าวสารยาเสพติดจากพี่น้องประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 และการแลกเปลี่ยนข่าวสารจากหน่วยงานยาเสพติด ทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดได้มุ่งเน้นเรื่องการขยายผลเครือข่ายการค้ายาเสพติด และการยึดอายัดทรัพย์สิน โดยใช้พยานหลักฐานทางเอกสาร บุคคล และวัตถุเป็นสำคัญ”

“โดยในปี 2565 นี้ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ตั้งเป้าหมายการยึดทรัพย์สินไว้ที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งการสืบสวนเส้นทางการเงิน นอกจากเป็นเครื่องมือช่วยในการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำไปใช้ในการริบทรัพย์สิน ตามรูปแบบการยึดทรัพย์รูปแบบใหม่ คือการยึดทรัพย์ตามมูลค่า หรือ Value Based Confiscation ด้วย และตอนนี้ สามารถยึดทรัพย์ได้แล้วกว่า 9,341.07 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อสามารถตัดเส้นทางการเงินนักค้า พร้อมริบทรัพย์สินซึ่งเป็นเสมือนเครื่องมือสำคัญได้แล้ว จะนำไปสู่การตัดวงจรนักค้ายาเสพติดและสามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดเหล่านี้ได้ในที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการดักฟังทางโทรศัพท์ เพราะการใช้พยานหลักฐาน คือสิ่งสำคัญในการลงโทษผู้กระทำความผิดได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ไม่มีเครื่องมือดักฟังทางโทรศัพท์ ถ้ามีคงจับผู้ค้ายาเสพติดได้หมดแล้ว ” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น