อ้างสั่งของทีละเยอะๆ และบอกให้ออกบิลไว้ แต่หายหน้า

ตะครุบกลางสี่แยกไฟแดง โจรแสบ อ้างสั่งของทีละเยอะๆ และบอกให้เหยื่อ ออกบิลไว้เลยจะวกกลับมาเอาที่เหลือพร้อมจ่ายเงินก่อนหายหน้า

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 65 โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ สั่งการให้ ร.ต.อ.ชัยพล ชัยชนะ รอง สว.สส. สภ.เมืองเชียงใหม่ และพวก ร่วมกันจับกุม นายจักรพงศ์ หรือหน่อย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ที่อยู่ ม. 2 ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน x กฉ xxxx กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า มีความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยมอมหน้าเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้โดยใช้ยานหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” (ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ. 540/2565 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2565)

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัด ที่ปรากฏตามภาพถ่ายตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 540/2565 ลง 5 กรกฎาคม ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยมอมหน้า เพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้โดยใช้ยานหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เรื่อยมา จนทราบว่าชายที่ปรากฏตามภาพถ่ายตามหมายจับดังกล่าวคือ นายจักรพงศ์ หรือหน่อย (สงวนามสกุล) อายุ 34 ปี ที่อยู่ ม. 2 ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหา และได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพบชายคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ นายจักรพงศ์ หรือหน่อย กิจต๊ะสัย และคล้ายกับชายผู้ต้องหา ที่ปรากฏในภาพถ่ายตามหมายจับกำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มาตามถนนสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี และเลี้ยวไปทางถนนเชียงใหม่ – ดอนสะเก็ด มุ่งหน้าไปทาง สี่แยกศาลเด็ก

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ และแบ่งกำลังส่วนหนึ่งไล่ติดตาม และอีกส่วนหนึ่งดักรออยู่ที่บริเวณสี่แยกศาลเด็ก สักพักได้มีชายจำนวน 2 คน ขับขี่รถกจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิก 125 ไอ สีดำ แดง ทะเบียน x กข xxxx เชียงใหม่ ผ่านมาถึงบริเวณสี่แยกศาลเด็ก และจอดรอสัญญาณไฟแดงอยู่ โดยชายที่นั่งซ้อนท้ายมามีลักษณะตำหนิรูปพรรณ คล้ายกับ นายจักรพงศ์ หรือหน่อย กิจต๊ะสัย ผู้ต้องหา เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัว จับกุม ทั้ง 2 คนเอาไว้

ก่อนจะนำตัวมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก จากการสอบสวน นายจักรพงศ์ ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าได้เคยก่อเหตุในท้องที่อื่นอีก รวม 9 ครั้ง ดังนี้

  1. เมื่อประมาณปลายเดือน พฤษภาคม 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้าน ในเขตท้องที่ สภ.แม่แตง ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ช้าง จำนวน 5 ลัง เบียร์ลีโอ จำนวน 5 ลัง น้ำอัดลม จำนวน 2 ลัง สุราแสงโสม จำนวน 1 ลัง สุราหงส์ทอง จำนวน 1 ลัง
  2. เมื่อประมาณปลายเดือน พฤษภาคม 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุรา ในเขตท้องที่ สภ.สารภี ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ช้าง จำนวน 5 ลัง เบียร์ลีโอ 5 ลัง สุรายี่ห้อหงส์ทอง จำนวน 6 ขวด
  3. เมื่อประมาณต้นเดือน มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุรา ในเขตท้องที่ สภ.สารภี ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ช้าง จำนวน 5 ลัง เบียร์ลีโอ 5 ลัง สุรายี่ห้อหงส์ทอง จำนวน 6 ขวด
  4. เมื่อประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุราไม่มีชื่อ ย่านสันติธรรม ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็นสุราแสงโสม จำนวน 2 ขวด สุราหงส์ทอง จำนวน 2 ชวด สุรายี่ห้อแสงโสม จำนวน 4 แบน สุรารีเจนซี่ จำนวน 2 แบน และบุหรี่ LM จำนวน 2 คอตตอล
  5. เมื่อประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายของชำไม่มีชื่อ บริเวณย่านช้างม่อย ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ช้าง จำนวน 3 ลัง
  6. เมื่อประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุราย่านข่วงสิงห์ ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ลีโอ 1 ลัง สุรายี่ห้อแสงโสม จำนวน 1 ขวด สุราหงส์ทอง จำนวน 1 ขวด บุหรี่ LM และ SMS จำนวนหลายซอง
  7. เมื่อประมาณต้นเดือน กรกฎาคม 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุราย่านข่วงสิงห์ ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็น เบียร์ลีโอ 1 ลัง เบียร์สิงห์ จำนวน 1 ลัง
  8. เมื่อประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุราย่านหลังวิทยาลัยราชภัฎ ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ช้าง จำนวน 2 ลัง และสุรา จำนวน 5 ขวด
  9. เมื่อประมาณปลายเดือน กรกฎาคม 2565 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายสุราย่านหน้ามหาวิทยาลัย ในเขตท้องที่ สภ.ช้างเผือก ได้ทรัพย์สินเป็นเบียร์ และสุรา รวมเป็นเงิน 2,822 บาท

ทางด้าน ร.ต.อ.ชัยพล ชัยชนะ รอง สว.สส.หัวหน้าชุดจับกุม กล่าวว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุหลายครั้งโดยมักจะใช้กลอุบายหลอกเอาทรัพย์ เช่นสุรา หรือสิ่งของ อ้างว่า ขอสั่งเหล้า เบียร์จำนวนเท่านี้ ให้ออกบิลรอไว้เลย และมักสั่งเกินที่รถจะเอาไปได้หมด จากนั้นก็บอกว่าจะเอาของไปส่งที่ร้านก่อนแล้วจะมาเอาที่เหลือพร้อมจ่ายเงินทีเดียวจากนั้นก็หายไปเลย ก่อเหตุลักษณะนี้แทบทุกเคส

ร่วมแสดงความคิดเห็น