ป.ป.ส. ชี้กฎหมายยาเสพติดใหม่ ผู้ค้ารับโทษหนัก ถูกยึดทรัพย์

ป.ป.ส. ชี้กฎหมายยาเสพติดใหม่ ผู้ค้ารับโทษหนัก ถูกยึดทรัพย์ ผู้เสพให้โอกาสกลับตัว

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ระบุว่า ประเด็นกฎหมายยาเสพติด ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองบทลงโทษผู้เสพโดยมองเป็นผู้ป่วย มากกว่าอาชญากร การลงโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพฤติการณ์ จะเป็นช่องโหว่ให้มีการกระทำผิดทางยาเสพติดเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น

เลขาเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ประมวลกฎหมายฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงบทบัญญัติจากเดิมที่ใช้บทสันนิษฐาน ผู้มียาเสพติดในครอบครองตามปริมาณที่กฎหมายกำหนด จะสันนิษฐานว่าเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือเป็นผู้ค้า โดยไม่ดูจากลักษณะของการกระทำความผิดที่แท้จริงเปลี่ยนเป็นการพิจารณาตาม พฤติการณ์ และความร้ายแรงกระทำผิดอ หากเป็นผู้ลักลอบค้าแม้จะมีปริมาณยาเสพติดน้อยในขณะจับกุมก็ต้องดำเนินคดีที่เป็นความผิดร้ายแรงร่วมกับริบทรัพย์สิน แต่หากพฤติการณ์เป็นเพียงผู้เสพจะยึดหลักคือ ผู้ป่วย จะช่วยเหลือให้ได้เข้ารับการบำบัดรักษา โดยเพิ่มบทสันนิษฐานการครอบครอง
เพื่อเสพ เป็นบทสันนิษฐานในทางที่เป็นคุณ เพื่อให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการพิจารณาดำเนินการผู้เสพยาเสพติดที่ครอบครองยาเสพติดปริมาณเล็กน้อยให้เข้าสู่การบำบัดรักษาโดยไม่ต้องส่งตัวไปดำเนินคดีไม่ต้องรับโทษที่รุนแรงอย่างไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ก่อนที่จะมีประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ผู้เสพรายใหม่ที่มียาบ้า 15 เม็ด จะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้จำหน่ายและมีบทลงโทษที่รุนแรงซึ่งอาจสร้างปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น คือปัญหานักโทษล้นเรือนจำ และผู้กระทำผิดจำนวนมากที่ไม่ได้รับโอกาสให้กลับตัว เมื่อปล่อยออกมาจากเรือนจำไม่สามารถกลับคืนสังคมได้อย่างปกติเกิดการกระทำผิดซ้ำ

ในทางกลับกัน หากผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์ เป็นผู้ค้ายาเสพติด หรือ เกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติด ที่เป็นเบื้องหลังปัญหายาเสพติดที่แท้จริง ประมวลกฎหมายยาเสพติดนี้จะมีบทลงโทษที่รุนแรงทั้งคดีอาญา และการยึดทรัพย์สินที่มาจากการกระทำผิดที่สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี และสามารถยึดทรัพย์ตามมูลค่า จากเดิมที่สามารถยึดทรัพย์ที่ตรวจสอบได้ว่ามาจากการค้ายาเท่านั้น ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ปรับให้สามารถยึดทรัพย์สินอื่นเพื่อให้ได้ครบจากมมูลค่าที่ประเมินว่ามาจากการค้ายาเสพติด

โดยในอดีตการยึดทรัพย์คดียาเสพติดได้ปีละไม่เกิน 600 ล้านบาท แต่ปัจจุบันในปีงบประมาณ 2565 เราสามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ กว่า 9,748 ล้านบาท ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ เริ่มบังคับใช้เมื่อ 9 ธันวาคม 2564 มีการปรับปรุงบทลงโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น มุ่งเน้นทำลายองค์กรการค้ายาซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหายาเสพติด เปิดโอกาสให้ผู้เสพได้รับการบำบัดมีโอกาสกลับคืนสู่สังคม เป็นเจตนารมณ์รัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น