ศปถ. หารือ (ร่าง) แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน

ศปถ. หารือ (ร่าง) แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พร้อมมาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% กำหนด “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” เพื่อสร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนในสังคมไทย

วันนี้ (8 สิงหาคม 2565) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 2/2565 โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้าร่วมประชุมฯ โดยถ่ายทอดการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังทุกจังหวัด เพื่อร่วมพิจารณา (ร่าง) แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ 2565-2570 ซึ่งเป็นกรอบแนวทางและแผนหลักในการดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนของประเทศ (ร่าง) แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ.2566 ปฏิญญาการเมือง 18 ข้อของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาความปลอดภัยทางถนน การกำหนดให้การสวมหมวกนิรภัย 100% เป็นนโยบายของรัฐบาล รวมถึงพิจารณาการกำหนด “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยจนเกิดผลเป็นรูปธรรมในสังคมไทย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า การประชุมฯ ในวันนี้ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ร่วมกันพิจารณา (ร่าง) แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ 2565-2570 ซึ่งเป็นกรอบแนวทางและแผนหลักในการดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนของประเทศภายใต้วิสัยทัศน์ “มุ่งสู่การสัญจรที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” โดย (ร่าง) แผนฉบับนี้ ได้กำหนด 4 ยุทธศาสตร์หลักที่มุ่งให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติ รวมถึงขับเคลื่อนการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสัญจรอย่างปลอดภัยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างรากฐานการทำงานด้านความปลอดภัยของประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนให้บรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในปี พ.ศ. 2570 ให้เหลือ 8,484 คน หรือ 12 คนต่อแสนประชาชน และลดจำนวนผู้บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางถนนในปี พ.ศ.2570 ให้เหลือ 106,376 คน รวมถึงวันนี้ยังได้พิจารณา (ร่าง) แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ.2566 เพื่อเป็นแนวทางการบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลและวันหยุดต่าง ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยใช้การรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงระดับพื้นที่ ควบคู่กับการกำหนดมาตรการลดอุบัติเหตุ 5 ด้าน ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัญหา และปัจจัยเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ เพื่อลดจำนวนครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน และให้ประชาชนได้เดินทางอย่างสุขใจและปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน

นอกจากนี้ ได้พิจารณาปฏิญญาการเมือง 18 ข้อของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคณะผู้แทนไทย (กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ได้เข้าร่วมการประชุมและร่วมรับรองปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมดังกล่าว เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยการประชุมดังกล่าวได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นทางการเมืองและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) ซึ่ง ศปถ. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยให้สอดคล้องตามปฏิญญาดังกล่าวต่อไป

พลเอก อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนยังได้พิจารณาประเด็นการกำหนดให้การสวมหมวกนิรภัย 100% เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อเร่งลดการเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนนและสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่ง ศปถ. ได้กำหนดมาตรการให้ทุกจังหวัด หน่วยราชการ สถานศึกษา สถานพยาบาล หน่วยงานท้องถิ่น สถานประกอบการ โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม เป็นพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100% รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างจริงจังกับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางเพื่อให้ประขาชนตระหนักถึงผลกระทบและเห็นถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย อีกทั้งยังได้พิจารณาการกำหนดให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปี เป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดย ศปถ. จะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความปลอดภัยทางถนนต่อไป

“จากปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในแต่ละปี เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจากพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการขับเคลื่อนการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยให้จังหวัดกำหนดงานด้านความปลอดภัยทางถนนเป็น “วาระจังหวัด” ผ่านกลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมุ่งลดปัจจัยเสี่ยง ทั้งด้านคน ถนน ยานพาหนะ และการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการเสริมสร้างวินัยจราจร และสร้างความตระหนักรู้ในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตให้เหลือ 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี พ.ศ. 2570 นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น กำหนดมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามกฎหมายควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีความตระหนัก จิตสำนึก มีความรับผิดชอบ และร่วมเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยแก่สังคมไทย” พลเอก อนุพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้รวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากที่ประชุมไปปรับปรุงเพิ่มเติมให้ (ร่าง) แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565-2570 ให้มีความสมบูรณ์ และเตรียมเสนอ (ร่าง) ต่อคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ รวมถึงจะไปบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนทางถนนของประเทศตามนโยบาย ผ่านกลไกระดับต่างๆ เพื่อมุ่งสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน

ร่วมแสดงความคิดเห็น