ประชุมวิเคราะห์ศักยภาพ โอกาส และผลกระทบ จากรถไฟความเร็วสูง

จ.เชียงราย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ผลการศึกษาศักยภาพและโอกาส จากรถไฟความเร็วสูง และเส้นทางมอเตอร์เวย์จีน – ลาว

วันที่ 9 ส.ค. 65 ที่ โรงแรมเอ็มบูทีค รีสอร์ท เชียงราย นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเสนอผลการศึกษาศักยภาพ และโอกาสจากรถไฟความเร็วสูงและเส้นทางมอเตอร์เวย์จีน-ลาว เพื่อรับฟังความคิดเห็นและศึกษาข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ถึงศักยภาพ โอกาส และผลกระทบจากรถไฟความเร็วสูง และเส้นทางมอเตอร์เวย์จีน – ลาว เพื่อนำผลการศึกษาไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนเตรียมความพร้อมรองรับ และเป็นแนวทางในการแสวงหาโอกาสการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ กายภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงราย โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมประชุม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้มีการศึกษาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ถึงศักยภาพ โอกาส และผลกระทบจากรถไฟความเร็วสูง และเส้นทางมอเตอร์เวย์จีน – ลาว เพื่อจะได้ทราบและนำผลการศึกษาไปใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผนเตรียมความพร้อมรองรับ และเป็นแนวทางในการแสวงหาโอกาส เพื่อการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ กายภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงราย และผลักดันเป็นข้อเสนอในเชิงนโยบายต่อไป

ปัจจุบันเส้นทางรถไฟจีน – ลาว มีการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมภูมิภาคต่างๆ ตามเส้นทางสายไหมศตวรรษ 21 ของจีน (Belt and Road Initiative ) มีระยะทางรวมกันประมาณ 1,620 กิโลเมตร เป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงผสมกับปานกลาง เชื่อมโยงโลจิสติกส์ 3 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย – ลาว – จีน ภายใต้แผนของธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชีย (ADB) พัฒนา 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง (GMS) โดยปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศของไทย ที่ใช้ขนส่งข้ามแดนไปลาวและจีน มีมูลค่ารวมกันประมาณ 421,000 ล้านบาท การขนส่งข้ามแดนไทย – จีน ใช้เส้นทางข้ามแม่น้ำโขงผ่านท่าเรือเชียงแสน ไปขนขึ้นบกที่ท่าเรือเมืองกวนเล่ย และกระจายสินค้าไปยังเมืองจิงหงและนครคุนหมิง ส่วนการขนส่งข้ามแดนไปจีนตอนใต้ทางบก ใช้เส้นทางถนน “R3A” ผ่านด่านเชียงของ ข้ามสะพานข้ามน้ำโขงไปเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว – หลวงน้ำทา บ่อเต็น เข้าสู่ชายแดนจีนที่เมืองโมฮั่น (บ่อหาน) ไปนครคุนหมิง

ปัจจุบันจีนกำลังวางแผนลดระยะเวลาในการเดินทาง โดยมีการบูรณาการทางรถไฟกับถนนเข้าด้วยกัน ด้วยการก่อสร้างทางด่วนมอเตอร์เวย์”ห้วยทราย-บ่อเต็น” แทนถนน R3A โดยสามารถลดระยะเวลาการเดินทางขนส่งจากบ่อเต็นถึงห้วยทราย เหลือ 90 นาที จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนมากขึ้น คนจีนจะเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าจีนที่นำเข้ามาก็จะมีปริมาณมากขึ้น หรือด้านการบริการและการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจีนและลาวจะมาเที่ยวไทยได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจบริการ 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มบริการสุขภาพ กลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารและโรงแรม รวมถึง สถานศึกษา ซึ่งมีศักยภาพรองรับนักศึกษาได้มากขึ้น

นอกจากนั้นด้านการลงทุน จะสามารถลงทุนและขยายธุรกิจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขยายฐานการค้าในลาว และส่งออกไปยังจีนตอนใต้ รวมถึงภาคบริการที่ไทยมีความชำนาญ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบริหารจัดการโรงแรม เป็นต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น