แพทย์ทหาร เตือนประชาชนในช่วงนี้เสี่ยงป่วยไข้ซิกา

แพทย์ทหาร “เตือนประชาชนในช่วงนี้เสี่ยงป่วยไข้ซิกา เนื่องจากมีฝนตกหลายพื้นที่ แนะใช้มาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย”

จากข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 26 กรกฎาคม 2565 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 92 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ 25-34 ปี รองลงมา 15-24 ปี และ 35-44 ปี ตามลำดับ ภาคเหนือพบผู้ป่วยมากที่สุด และ 5 จังหวัดที่พบอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ น่าน อุตรดิตถ์ กรุงเทพมหานคร เชียงราย และนนทบุรี โดยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกา ในช่วงปี 2565 นี้มีตัวเลขที่สูงขึ้นกว่าปี 2564 (จากข้อมูลระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506 พบว่าอุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ในเดือนกรกฎาคม ปี 2565 = 0.071 ต่อแสนประชากร, ปี 2564 = 0.002 ต่อแสนประชากร) ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือ ความพิการทางสมองและระบบประสาทในทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสซิกา ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติ เช่น ศีรษะเล็ก การได้ยินผิดปกติ และพัฒนาการช้า เป็นต้น

โดยในห้วงนี้ คาดว่าจะพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน และจากการพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า ในช่วงระหว่างสัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์หน้า จะมีฝนตกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งสามารถเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการระบาดของโรคได้ โรคติดเชื้อไวรัสซิกามียุงลายเป็นพาหะนำโรค และสามารถติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ รวมไปถึงจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ โดยผู้ติดเชื้ออาจมีอาการแสดงได้ ดังนี้ ผื่นแดงตามลำตัวและแขนขา ไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ตาแดง ปวดข้อ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ และขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและโรงเรียนทุกแห่ง โดยใช้มาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค มาตรการนี้ยังสามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกและโรคไข้ปวดข้อยุงลายได้อีกด้วย การเก็บบ้าน ที่พักอาศัย แหล่งชุมชน และโรงเรียน ให้สะอาดจะป้องกันไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิด ป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะภายในบริเวณบ้าน ที่พักอาศัย แหล่งชุมชน และโรงเรียนให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมถึงการป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดด้วยการทายากันยุง และนอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวดกันยุง

ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และแพทย์ทหาร มีความห่วงใยต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต่อโรคภัยดังกล่าว หากพบว่าตนเอง หรือคนรอบข้างมีอาการสงสัยว่าตนเองมีอาการป่วย ควรรีบไปพบแพทย์ได้ที่โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ, สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจหาเชื้อ จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่ากองทัพภาคที่ 3 โดย โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ หรือโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตทุกโอกาส

คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
11 สิงหาคม 2565

ร่วมแสดงความคิดเห็น