ข่าวจริง! อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เปิดให้คนไทยเข้าฟรี 12 ส.ค. 65

วันที่ 11 ส.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีข้อมูลในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เปิดให้คนไทยเข้าฟรี วันที่ 12 ส.ค. 65 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเรียกเก็บและการยกเว้นค่าบริการหรือค่าตอบแทน และอัตราค่าบริการหรือค่าตอบแทนในการให้บริการและการอำนวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ พ.ศ. 2564 ข้อ 16 กำหนดให้มีการยกเว้นค่าบริการสำหรับบุคคลและการนำยานพาหนะในการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ และการใช้บริการนำเที่ยว หรือการนำศึกษาธรรมชาติ หรือสิ่งอานวยความสะดวก อุปกรณ์นันทนาการและกิจกรรมที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดไว้
ในข้อ (2) กรณีวันสำคัญของชาติ ได้แก่ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรมราชินี วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันแม่แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ วันเด็กแห่งชาติ และวันครอบครัวหรือ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้เป็นวันสำคัญของชาติ โดยให้เป็นวันหยุดราชการ อธิบดีอาจออกประกาศให้ยกเว้นค่าบริการสำหรับบุคคลและการนายานพาหนะในการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือ สวนรุกขชาติ สำหรับชาวไทยในวันดังกล่าวได้

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถติดตามได้ที่ https://portal.dnp.go.th/ หรือโทร. 0 – 2561 – 0777

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เปิดให้คนไทยเข้าฟรี วันที่ 12 ส.ค. 65

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น