ดูดทรายใกล้แหล่งท่องเที่ยวผาวิ่งชู้

เชียงใหม่ เหิมหนักนายทุนจ้างคนงานดูดทรายใกล้แหล่งท่องเที่ยวผาวิ่งชู้

เหิมหนักสนธิกำลังเจ้าหน้าที่บุกยึดท่าทราย ดูดทรายกลางลำน้ำปิง พื้นที่ป่าใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติผาวิ่งชู้ ต.ฮอด อ.ฮอด ชาวบ้านหวั่นส่งผลกระทบกับหน้าผาวิ่งชู้ จึงร้องเรียนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบ มีการบุกรุกดูดทรายนอกพื้นที่ ที่ได้รับใบอนุญาต ก่อนที่จะควบคุมตัวคนงานและคนดูแลรวม 7 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฮอด ดำเนินคดี 4 ข้อหา และแจ้งจับผู้อยู่เบื้องหลังอีก 2 ราย

ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามตำรวจ ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชานแดนที่ 33 . เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าทรายพื้นที่บ้านดงดำ ต.ฮอด อ.ฮอด หลังชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ว่ามีกลุ่มนายทุนเข้ามาทำท่าทราย ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติผาวิ่งชู้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังในพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ถาวรป่าแม่ตาล แม่ยุ่ย

ต่อมาพล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจ ปทส. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปทส.ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามตำรวจ ปทส.สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบริเวณข้างทางเข้าท่าทรายมีการตัดทำถนนใหม่ ๆ ลักษณะขยายถนนให้กว้างขึ้น พบต้นไม้ถูกดันถอนรากถอนโคนในลักษณะล้มคาต้นดันไปกองไว้ข้างทางถนนเส้นทางที่ได้ทำการตัดทางตลอดระยะทาง 1 กม.เศษ นอกจากนี้ยังพบต้นไม้บางต้นถูกตัดทอนและมีการชักลากออกนอกพื้นที่ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงท่าทรายพบคนงานกำลังขับเรือดูดทราย จึงเข้าไปสอบถามนางสาวเอ นามสมมุติ คนดูแลท่าทรายเพื่อตรวจสอบใบอนุญาตประกอบการ แต่นางสาวเอฯแสดงความไม่พอใจได้โทรศัพท์ บอกเจ้าของกิจการ พร้อมแจ้งว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาในท่าทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ขู่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ทุกนาย หลังจากนั้นนางสาวเอนได้นำเอกสารใบอนุญาตมาแสดงกับเจ้าหน้าที่พบว่าได้รับอนุญาต ประกอบกิจการดูดทรายบริเวณแม่น้ำปิง ตั้งอยู่ที่บ้านดงดำ หมู่ 5 ต.ฮอด อ.ฮอด เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการดูดทรายนอกพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาตมากถึง 10 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณทางเข้ามายังท่าทรายมีการขยายถนนสองข้างทางทำให้พื้นที่ป่าถูกทำลายรวม ประมาณ 1 – 3 – 32 ไร่ และพบมีการแผ้วถางพื้นที่ป่าเพื่อทำลานกองทราย 7 – 3 – 28 ไร่

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าจุดที่มีการดูดทรายนอกพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาตอยู่ห่างจากหน้าผาวิ่งชู้ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งหากปล่อยให้มีการลักลอบดูดทรายบริเวณดังกล่าวไม่นานจะส่งกระทบทำให้หน้าผาวิ่งชู้ อาจะทรุดลงมาได้ในที่สุด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางที่ใช้กระทำความผิดรวม 9 รายการประกอบด้วย รถแบคโฮ 2 คัน, เครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก , เครื่องคัดแยก แท่นคัดแยก หิน กรวด ทราย ท่อดูดทราย และอุปกรณ์อื่นๆอีกหลายชิ้น พร้อมกับนำตัวนางสาวเอฯ คนดูแลท่าทราย คนขับรถ แบคโฮล , คนงานประจำท่าทราย รวมทั้งหมด 7 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฮอด ดำเนินคดี ร่วมกันตั้งโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , ร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินฯ , ร่วมกัน ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ ร้องทุกข์กล่าวโทษ แห่งหนึ่ง ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และเจ้าของกิจการท่าทรายแห่งหนึ่งพร้อมเจ้าของอีก 2 คนเป็นชายอายุ 60 ปี ชาว ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ. ลำพูน และผู้หญิงอายุ 48 ปี ชาว ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น