(มีคลิป)ตบฝาโลง!! พี่ชายโมโหวิญญาณ “แม่เลี้ยงบาง” ที่ถูกฆ่าโหดไม่ยอมไปลงทรงเจ้า ด้านสามีผู้ตายเปิดใจในความบริสุทธิ์

จากกรณีที่นางสมบุญ หรือแม่เลี้ยงบาง อินสรรค์ อายุ 62 ปีถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงถึงแก่ความตายที่หลังบ้านพักเลขที่ 25/2 หมู่ 2 บ้านพระเจ้าเหลื่อม ต.หนองตอง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ไปเมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค.2562 ที่ผ่านมาซึ่งคนร้ายได้วิ่งหลบหนีปีนกำแพงหลบหนีไป และมีไฟฉายยังเปิดไฟตกอยู่ข้างกำแพงบ้าน และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองตองได้เรียกตัว นายอุดม หรือพ่อหลวงดม อินต้อ อายุ 64 ปีสามีผู้ตาย นางพัชรี อินต้อ อายุ 42 ปีบุตรสาว และ นายทศพร แก้วน้อย อายุ 45 ปีบุตรเขยไปสอบสวนหาสาเหตุกันอย่างละเอียด ตามที่เป็นข่าวไปแล้วตามลำดับนั้น

ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 24 พ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 2 บ้านพระเจ้าเหลื่อม ต.หนองตอง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของแม่เลี้ยงบาง หรือนางสมบุญ อินสรรค์ พบว่ามีชาวบ้านญาติพี่น้องจำนวนหนึ่งกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ส่วนคนอื่นๆมี นายอุดม อินต้อ นางพัชรี อินต้อ นายทศพร แก้วน้อย และญาติๆจำนวน 3 ลำรถปิคอัพ เดินทางนำวิญญานของแม่เลี้ยงบางไปลงที่คนทรงเจ้าบ้านปากทางเจริญ เพื่ออยากทราบว่าใครเป็นคนฆ่า พอสักครู่ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ปรากฎว่าได้มีชายคนหนึ่งทราบภายหลังชื่อ พ่อหลวงสุทัศน์ ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่เลี้ยงบาง ได้เดินปรี่มาที่โลงศพใช้มือตบที่ฝาโลงไปด้วยความโมโห 2 ทีเสียงดังสนั่นพร้อมกับพูดว่า”พาไปแล้วไม่ไป” ทำเอาญาติๆพากันตกใจ เมื่อสอบถามเรื่องราวทราบว่าขณะที่ทำพิธีที่บ้านเจ้าทรง ทางเจ้าทรงบอกว่าวิญญานแม่เลี้ยงบาง ไม่ยอมมาลง ขณะนี้วิญญาณกำลังร้องไห้อย่างหนักนั่งเฝ้าศพอยู่ ทั้งหมดจึงพากันกลับบ้าน

ทาง”พ่อหลวงดม”นายอุดม อินต้อ สามีของนางสมบุญ เล่าด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่าได้แต่งงานอยู่กินกันมาหลายสิบปีแล้วและมีลูกสาวด้วยกันเพียงคนเดียวคือ นางพัชรี ต่อมาตนเมื่อตอนได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 และได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านมาสักระยะหนึ่งจึงได้หย่าร้างกันเพราะนางสมบุญไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยในเรื่องหน้าที่การงาน แต่ยังอยู่ในบ้านเป็นครอบครัวเดียวกันตามปกติ เมื่อเป็นผู้ใหญ่บ้านครบ 5 ปีก็ได้มาสมัครได้รับการเลือกตั้งเป็น สท.เทศบาลตำบลหนองตอง ในตำแหน่งประธานสภาฯจนครบวาระได้หันมาประกอบอาชีพทำสวนลำไย(ของพ่อตา)และเลี้ยงไก่ชนขายด้วยจนถึงปัจจุบัน

ในเรื่องส่วนตัวพ่อหลวงดม นายอุดม อินต้า เล่าอีกว่าปกติเป็นคนดื่มเบียร์เป็นบางครั้งที่มีงานเท่านั้น ส่วนการพนันก็เล่นเพียงไก่ชนครั้งละ 200-300 บาท หรือเพียง 1,100 บาท เมื่อนำไก่ของตนเองไปชน ส่วนแฟนใหม่ก็มีเหมือนกัน เป็นแม่หม้ายลูกติดเป็นชาวบ้านหารแก้ว ต.หนองตอง ถึงเขาจะมีฐานะยากจนแต่ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องเงินๆทองๆเลย สำหรับเรื่องในครอบครัวระหว่างตนกับ นางสมบุญ นั้นอาศัยอยู่บ้านคนละหลังกันในบริเวณเดียวกัน บ้านหลังเก่ามีตนกับลูกเขย นายทศพร และนางพัชรี ส่วนบ้านหลังใหม่ นางสมบุญ อาศัยอยู่เพียงลำพัง เรื่องการเงินการทองต่างคนต่างอยู่กระเป๋าใครกระเป๋ามัน ถึงจะแยกกันอยู่ทุกคนอยู่กันด้วยความรักไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใดคอยดูแลซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวขอทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ทางพ่อหลวงดม เล่าว่าเมื่อตอนเย็นวันที่ 19 พ.ค.2562 นางสมบุญ ได้ไปงานขึ้นบ้านใหม่เพื่อนบ้านโดยทรัพย์สินที่ติดตัวไปมีสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท แหวน 2 วง เงินสด 600 บาท ขณะที่อยู่ในงานขึ้นบ้านใหม่มีญาติคนหนึ่งได้ทักว่าตะขอสร้อยคอกำลังจะหลุด เพราะเพิ่งซื้อสร้อยคอมาใหม่ นางสมบุญจึงได้ถอดสร้อยคอออกใส่ในกระเป๋าผ้า เมื่อกลับเข้าบ้านได้ถูกคนร้ายใช้มีดแทง ร้องเรียกขอความช่วยเหลือทางนายทศพร ได้วิ่งมาดูพบว่านางสมบุญ แม่ยายถูกแทงเลือดท่วมตัว และนางพัชรี ได้ร้องเรียกตนขณะนั้นกำลังดูทีวีรายการชกมวยอยู่ ยอมรับว่าไม่ได้ยินเสียงนางสมบุญ เพราะที่วัดมีงานสรงน้ำพระธาตุ มีมหรสพเสียงดังมาก เมื่อทราบเหตุแล้วจึงวิ่งเข้ามาประคองร่างของนางสมบุญ และแจ้งให้กู้ภัยฯทราบเหตุนำตัวส่งโรงพยาบาล

ทางผู้สื่อข่าวซักถามอีกว่าหากตำรวจสงสัยพ่อหลวงดม เกี่ยวข้องกับคดีนี้คิดอย่างไรและได้ตอบว่าหากผมฆ่านางสมบุญจะฆ่าไปเพื่ออะไร เพราะผมหย่าขาดเป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ในเรื่องทรัพย์สินอะไรทั้งสิ้น ส่วนที่ว่านางสมบุญ มีเงินสดอยู่จำนวนมากขอยืนยันว่าไม่รู้เลยว่ามีจำนวนเท่านั้น เรื่องประกันชีวิตก็ไม่มีเงินฌาปนกิจศพก็ได้เพียงในหมู่บ้านจำนวน 5-6 หมื่นเท่านั้น ยิ่งตำรวจสงสัยคนในบ้านเป็นคนฆ่า ก็ขอยืนยันว่าจะฆ่านางสมบุญ ด้วยเหตุผลอันใด ถึงแม้ว่านายทศพร (ชาวลำปาง)จะเป็นลูกเขยสามีของนางพัชรี ได้เพียง 2 ปีมีอาชีพขับรถส่งผักเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เป็นคนนิสัยดีมากครอบครัวต่างรักใคร่กัน

ส่วนสมุดบัญชีเงินฝากของนางสมบุญและบันทึกต่างๆพ่อหลวงดม กล่าวว่าไม่รู้จริงว่ามีเงินจำนวนเท่าใด นั้นเป็นเรื่องของนางพัชรี ลูกสาว ซึ่งทางตำรวจได้นำไปตรวจสอบแล้วว่าเงินที่นางพัชรีปล่อยกู้ให้ใครบ้าง ยังไม่เป็นที่เปิดเผย สุดท้ายพ่อหลวงดม ได้จุดธูปพร้อมกับบอกกล่าวหน้าโลงศพว่า”ขอให้ติดตามตัวคนร้ายได้เร็วไวทุกสิ่งทุกอย่างจะได้คลี่คลายกันเสียที”

สำหรับพิธีฌาปนกิจศพ” แม่เลี้ยงบาง” นางสมบุญ อินสรรค์ ญาติจะได้เคลื่อนศพสู่สุสานบ้านเหล่าในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค.2562 เวลา 13.00 น.