ความสูงชันของเทือกดอยผนวกกับความคดเคี้ยวของถนนเบื้องหน้าไม่อาจเป็นอุปสรรคขวางกั้นการเดินทางของผู้คนนับร้อยพันที่ต้องการขึ้นไปค้นหาแง่งามให้กับชีวิตที่ยอดดอยแม่สลอง แดนดินถิ่นที่อยู่ของต้นซากุระแห่งเดียวในเมืองไทย
ดอยแม่สลองนับได้ว่าเป็นดอยที่มีความสูงสุดแห่งหนึ่ง เพราะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,350 เมตร ในช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อากาศจะหนาวเย็นมาก อุณหภูมิเฉลี่ย 3-6 อาศาเซลเซียส ถ้าปีไหนหนาวหนาวนาน ดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งก็จะบานยืดยาวตามไปด้วย ในช่วงเวลาปกติบนดอยแม่สลองจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส จึงทำให้ที่นี่มีฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี ผู้คนที่อาศัยอยู่บนดอยแม่สลองประกอบด้วยชาวเขาหลายเผ่า นอกจากนั้นมีชาวจีนยูนนานและชาวไทย ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพด้านการเกษตร ปลูกผักและผลไม้เมืองหนาวที่ขึ้นชื่อได้แก่การปลูกชา
แม่สลองในวันนี้มีนักเดินทางขึ้นไปเยือนปีละหลายหมื่นคน ด้วยเสน่ห์แห่งป่าเขา สายหมอกและวัฒนธรรมของชาวจีน จึงตรึงตาต้องใจให้ที่นี่กลายเป็น “ปลายทาง” ของนักเดินทางเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
ทิวดอยที่เห็นทอดตัวยาวอยู่เบื้องหน้าซุกซ่อนเรื่องราวความเป็นปริศนามานานกว่าครึ่งศตวรรษ ในอดีตที่แห่งนี้เป็นถิ่นฐานที่อยู่ของผู้อพยพชาวจีน ซึ่งอพยพหนีคอมมิวนิตส์มาเมื่อ 70-80 ปีที่แล้ว ภายใต้การนำของนายพลต้วน ซี เหวินและนายพลหลี่ เหวิน ฝาน อดีตแม่ทัพ 5 กองพล 93 (ก๊กมินตั๋ง) ซึ่งเป็นกองทัพของรัฐบาลจีน ของจอมพลเจียง ไค เช็ก ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาลจีนที่ส่งมารักษาชายแดนจีน-พม่า การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลจีนกับกองทัพทหารพรรคคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อ ตุง ทำให้เจียง ไค เช็ก พ่ายแพ้และหนีไปอยู่ไต้หวัน กองพล 93 ก็เลยกลายเป็นทหารไร้สังกัด หนีการกวาดล้างของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก็มาตั้งหลักอยู่ที่เมืองเชียงลับ ในเขตประเทศพม่า โดยมีอาสาสมัครและครอบครัวลี้ภัยตามออกมาสมทบมากมาย จนได้จัดเป็นกองทัพได้ 5 กองทัพ ภายใต้คำบัญชาการของนายพล หลี่ หมี
ร่วมแสดงความคิดเห็น