ญาติเดินทางรับศพ หญิงถูกฆ่าโหดเอาร่างโยนริมทางอำพรางคดี หลังส่งชันสูตร ยันผู้เสียชีวิตไม่ได้ตั้งท้อง

รายงานข่าวแจ้งว่าจากกรณีการเกิดเหตุฆาตกรรมโหด ที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.ค.62) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบศพ ถูกห่อศพด้วยป้ายโฆษณาไวนิลมัดด้วยเชือก นำมาทิ้งไว้รวมกับกองขยะที่ริมถนนสายเชียงใหม่-สะเมิง เขตบ้านแดงช้างแก้ว หมู่ 10 ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง และจากการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตพบว่าเป็นหญิงอายุประมาณ 40-50 ปี สวมกางเกงขายาวสีดำ กางเกงในสีชมพู เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีขาวพับแขน เสื้อยกทรงสีชมพู ไว้ผมประบ่า มีตำหนิรอยสักเก้ายอดอยู่ตรงกลางหลัง ยันต์ห้าแถวอยู่ไหล่ด้านซ้าย ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนหน้าเละจำแทบไม่ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการส่งศพผู้เสียชีวิต มาทำการชันสูตรที่แผนกนิติเวชของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งได้เร่งทำการติดตามข้อมูลและญาติผู้เสียชีวิต จนกระทั่งในช่วงเย็น ทราบว่าเสียชีวิตคือ นางสาววิลาวัณย์ บุญเรือง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/1 ม.3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้หายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 ที่ผ่านมา และญาติได้พากันประกาศติดตามหาตัว จนกระทั่งมาทราบว่าเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.30 น. วันนี้ (19 ก.ค.62) ที่บริเวณหน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นายนราทิพ บุญเรือง อายุ 22 ปี ลูกชาย และ นายสุรพล แก้วดี อายุ 41 ปี น้องชาย พร้อมด้วยญาติของนางสาววิลาวัณย์ บุญเรือง ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาทำการติดต่อรับศพของ นางสาววิลาวัณย์ หลังจากที่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางญาติได้ยืนยันว่าศพที่พบในที่เกิดเหตุนั้น เป็นศพของนางสาววิลาวัณย์ จริงโดยในวันนี้ทางญาติจะได้มีการไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ แล้วจะได้มีการทำพิธีอันเชิญวิญญาณผู้ตาย ก่อนจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไปทั้งนี้ นายสุรพล แก้วดี อายุ 41 ปี น้องชาย ได้เปิดเผยว่าพี่สาวได้หายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 เวลา 13.00 น. โดยได้มีการนำทรัพย์สินติดตัวไปหลายรายการ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกไป จากนั้นก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ ซึ่งต่อมาหลังจากที่พยายามออกติดตามหาตัวกันทางญาติได้มีการแจ้งความเอาไว้แล้ว จนกระทั่งวานนี้ก็ปรากฎข่าวมีคนพบศพผู้เสียชีวิตเพศหญิงไม่ทราบชื่อถูกทิ้งอยู่ริมทาง จึงได้มาติดต่อจนสามารถยืนยันได้ว่าเป็นศพของ นางสาววิลาวัณย์ ซึ่งก็คิดไม่ถึงว่าพี่สาวจะมาถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอย่างนี้
ขณะที่ทางด้าน นายนราทิพ บุญเรือง อายุ 22 ปี ลูกชาย เปิดเผยว่า เบื้องต้นยืนยันแล้วว่าผู้เสียชีวิตเป็นมารดาของตนจริง ซึ่งสาเหตุของการฆาตกรรมนั้นตนยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมายก่อน ส่วนร่างของมารดานั้นทางญาติกำลังติดต่อเพื่อขอรับศพจากนั้นจะได้นำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ศาลาชุมชนหมู่ที่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ส่วนทางด้าน นางจันจิรา อาสากิจ อายุ 60 ปี เพื่อนร่วมงานและญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ได้พบกับ นางสาววิลาวัณย์ ผู้เสียชีวิตเป็นนครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.ค.62 เวลาประมาณ 07.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เสียชีวิตเลิกงานจากการเข้ากะดึก จากนั้นก็ไม่พบเจออีก จนกระทั่งวันที่ 16 ก.ค.62 ลูกชายของ นางสาววิลาวัณย์ ได้โทรมาหาเพื่อสอบถาม และได้ช่วยกันโทรหา แต่ทางเจ้าตัวก็ไม่รับสาย และไม่สามารถติดต่อได้ในเวลาต่อมา และทราบว่า นางสาววิลาวัณย์ ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ทราบคือ นางสาววิลาวัณย์ อยู่ที่ถนนสาย อ.แม่ริม จากนั้นก็ไม่มีเบาะแสอีกเลย ซึ่งระหว่างที่ นางสาววิลาวัณย์ ขับรถไปนั้นคาดว่าจะไปพบใครซักคน โดยก่อนที่ นางสาววิลาวัณย์ จะหายตัวไปนั้นตนกับ นางสาววิลาวัณย์ ได้ทำงานด้วยกันและไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด และทาง นางสาววิลาวัณย์ ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เพราะเวลาอยู่ด้วยกันก็คุยแต่เรื่องงานและเรื่องทั่วไป โดยส่วนตัวจากที่ทำงานมาด้วยกันหลายปี ทราบว่านิสัยของ นางสาววิลาวัณย์ เป็นคนร่าเริง รักเพื่อนฝูง แต่ไม่เรื่องปัญหาส่วนตัวก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ แต่ในเรื่องของที่ทำงานนั้นก็ไม่มี ส่วนในเรื่องของกรณีการเสียชีวิตนั้นตนก็ไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของ นางสาววิลาวัณย์ และทางเจ้าตัวก็ไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้ หลังจากที่ตนทราบเรื่องก็รู้สึกเสียใจ และตกใจมากเมื่อเห็นข่าวและทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นางสาววิลาวัณย์ ซึ่งเป็นเพื่อร่วมงาน โดยอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ช่วยติกตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วเนื่องจากสงสาร นางสาววิลาวัณย์ ที่ต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ ส่วนกรณีที่ระบุว่า นางสาววิลาวัณย์ กำลังตั้งท้องอยู่นั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด แต่เห็นว่ารูปร่างลักษณะคล้ายคนท้องนั้นน่าจะมาจากการที่ นางสาววิลาวัณย์ สวมใส่ชุดคลุมที่ไปร่วมงานวัน อสม. โดยได้ไปร่วมเดินขบวนอนามัยแม่และเด็ก จึงทำให้ดูลักษณะคล้ายกับคนท้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น