(มีคลิป) ตัวแทนรถรับจ้างสาธารณะชม. มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ จทน.รปภ.สนามบิน หลังปรากฎข่าวปราบ Grab Car ฝ่าฝืนกฎหมายสนามบิน
23 ก.ค. 62
ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ออกมาทำการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาชนเข้าใจและเห็นใจการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งอยากเป็นตัวแทนเพื่อให้กำลังใจ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างยุติธรรม เนื่องจาก Grab Car นั้นยังถือเป็นบริการที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้บรรดากลุ่มคนขับรถรับจ้างสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างได้รับความเดือดร้อน จากการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้บริการรับผู้โดยสาร แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการร้องเรียนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอให้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง และแก้ไขปัญหาแล้วก็ตาม 
ทั้งนี้ ทางด้าน นายกร กาญจน์กนกพร เปิดเผยว่า หลังจากที่ปรากฎเรื่องราวเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับ นายสุชาติ ไชยประยา หนุ่มขับ Grab Car ฝ่าฝืนกฎหมายสนามบิน และกลายเป็นข่าวรวมไปถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น หลังจากที่ทางชมรมได้เห็นก็จึงอยากเข้ามาให้กำลังใจ จึงได้ส่งตัวแทนพร้อมกระเช้าดอกไม้มาแสดงความขอบคุณ ที่ทางเจ้าหน้าที่ของสนามบินเชียงใหม่ ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ซึ่งทางชมรมต่างได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา แท็กซี่เถื่อน (Grab Car) ที่ปัจจุบันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อย่างที่บุคคลที่ปรากฎภายในคลิประบุว่ามีมากกว่า 20,000 คัน ในขณะที่รถรับจ้างสาธารณะที่ทำถูกกฎหมายมีเพียงประมาณ 2,000 กว่าคัน และต้องถูกแย่งผู้โดยสาร ขาดรายได้จากที่เมื่อก่อนก็ลำบากอยู่แล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการร้องเรียนไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ตามแต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง เมื่อทางชมรมเห็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การท่าในครั้งนี้ จึงรู้สึกว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในการปฏิบัติงาน และไม่สนับสนุนการกระทำของแท็กซี่เถื่อน (Grab Car) จึงอยากให้กำลังใจและขอสนับสนุนการทำงานของทางเจ้าหน้าที่อย่างจริงจัง 
อย่างไรก็ตามในส่วนของความคืบหน้าที่เกิดขึ้น ล่าสุดทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ก็ได้มีการส่งหนังสือ ชี้แจงถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำเป็นต้องกวดขันป้องปราม และดำเนินการกับรถที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ซึ่งรวมถึง Grab Car ที่เข้ามาในเขตพื้นที่ท่าอากาศยาน ที่ถือเป็นพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบันรถ Grab Car ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติของกรมการขนส่งทางบก จึงอาจเป็นช่องว่างที่จะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้กำหนดมาตรการดำเนินการกับรถ Grab Car คือ หากเป็นการตรวจพบครั้งแรก จะบันทึกประวัติและว่ากล่าวตักเตือน และหากพบในครั้งต่อๆ ไป จะเปรียบเทียบปรับเป็นเงินตั้งแต่ 50 -2,000 บาท ตามประกาศกระทรวงคมนาคม ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555 ซึ่งกรณี ของนายสุชาติ เป็นการตรวจพบครั้งแรก เจ้าหน้าที่จึงขอให้บันทึกประวัติ แต่นายสุชาติกลับ ไม่ให้ความร่วมมือจนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และเพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กร รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุชาติ ต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น