ตาย 1 คน ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า และหนังเน่า (Necrotizing) หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน เข้ามารักษาที่ รพ.น่าน เพิ่มอีก 1 คน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.00 น. ที่โรงพยาบาลน่านนพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลน่าน หรือหมอบอย แจ้งว่า ทางโรงพยาบาลน่านได้รับคนไข้ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลสันติสุข ชื่อนายสม พังยะ อายุ 77 ปี บ้านน้ำโซ้ง บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ตำบลดู่พงษ์ สันติสุข อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน ซึ่งป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า และหนังเน่า (Necrotizing fasciitis) หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน เข้ามารักษาที่ รพ.น่าน เพิ่มมาใหม่อีก 1 คน รวมผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเข้ารับการรักษาในไอซียู ตอนนี้ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

สำหรับโรคเนื้อเน่าและหนังเน่า หรือแบคทีเรียกินเนื้อคน ที่กำลังระบาดไปทั่วในพื้นที่จังหวัดน่าน พบสถานการณ์รุนแรง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 1 ราย หลังติดเชื้อมีแผลเน่าลุกลามที่เท้า และมีอาการแทรกซ้อนติดเชื้อในกระแสเลือด ความดันต่ำ และมีอาการหนัก 2 ราย ย้ายเข้ารักษาที่ห้องไอซียู แพทย์และพยาบาลต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด แพทย์ย้ำเตือนทำนา ทำไร่ หรือจับปลาหนองน้ำ ถ้ามีแผลตามร่างกาย ขอให้รีบขึ้นจากโคลน รีบล้างแผลโดยให้น้ำสะอาด หากมีอาการคัน ผื่นแดง รีบพบแพทย์รักษาทันที

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลน่าน หรือหมอบอย ได้เปิดเผย ขณะนี้โรคเนื้อเน่าและหนังเน่า หรือแบคทีเรียกินเนื้อคน สถานการณ์แนวโน้มรุนแรง และกำลังระบาดไปทั่วทั้งจังหวัดน่าน ล่าสุดมีผู้ป่วยส่งตัวมารักษาเพิ่มอีก 1 ราย จากอำเภอสันติสุข โดยรวมมีผู้ป่วยเข้ารักษาแล้ว 26 ราย เสียชีวิต1 ราย อาการหนัก 2 ราย และอยู่ในระหว่างพักฟื้น 5 ราย ซึ่งโรคดังกล่าวนี้ เป็นโรคที่ติดเชื้อจากทางผิวหนังลุกลามเข้าสู่กล้ามเนื้อจนเป็นแผลพุพอง และมีหนอง ลามเข้าไปถึงกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง ซึ่งบางราย ต้องทำการผ่าตัด หรือกรีดเนื้อ เปิดแผล เพื่อเอาล้างเอาหนอง เนื้อที่เน่าตายออก แต่หากลุกลามอาจถึงขั้นต้องตัดขาทิ้งสำหรับการรักษาแพทย์จำเป็นต้องตัดเนื้อตายออกให้หมด และให้ยาปฎิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ซึ่งถ้าเชื้อยังไม่ลุกลามเข้ากระแสเลือด ผลลัพธ์ของการรักษาจะค่อนข้างดี สำหรับผู้ป่วยบางรายที่ไม่ได้ลงนา หรือไม่มีบาดแผลก็อาจจะติดเชื้อดังกล่าวได้ โดยการเกา หรือมีบาดแผลถลอกเล็กน้อย เชื้อสเตรปโตคอคคัส หรือสแตปฟิโลคอคคัสที่อยู่บริเวณผิวหนังอาจจะเข้าไปในแผลแล้วเกิดการติดเชื้อ ถ้าผู้ใดมีผิวหนังบวมแดงอย่างรวดเร็ว แล้วมีตุ่มพุพองที่ผิวหนัง ขอให้รีบมาตรวจรักษาก่อนที่อาการจะลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

การระบาดของโรคเนื้อเน่า โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีประวัติไปดำนา ลุยโคลน และโดนหอย หรือเศษแก้วบาด เศษไม้ตำเท้า และไม่ได้ทำแผล หรือรักษาใดๆ เนื่องจากต้องทำนาให้เสร็จ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในบาดแผล และเพิ่มจำนวนจนเกิดอาการรุนแรงได้ โรคเนื้อเน่าส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคทั้งชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น คลอสติเดียม และเชื้อชนิดใช้ออกซิเจนเช่น สแตปฟิโลคอคคัส สเตรปโตคอคคัส ชนิดที่สามารถสร้างสารพิษได้ โดยอาการจะมีผิวหนังบวมแดงร้อน ถ้าเชื้อลงลึกกินทั้งชั้นผิวหนังจะพบตุ่มพุพอง และค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง และถ้าเนื้อตายจะกลายเป็นสีดำ บางรายอาจจะต้องตัดขา หรืออาจจะมีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ไข้สูง และทำให้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้แจ้งประกาศเตือนไปยังทุกอำเภอให้เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผู้มีอาชีพทำนา ทำไร่ ทำสวน และออกหาปลาตามหนองน้ำต่างๆ หากมีประวัติลุยโคลนและมีบาดแผล ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งและปิดแผล แล้วรีบมาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อให้ตรวจรักษาต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น